หลังจากที่วันศุกร์ที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(UNSC)ซึ่งมีสมาชิก 15 ประเทศ ประชุม เพื่อพิจารณาข้อเสนอ ให้ที่ประชุมรับรองสถานะสมาชิกภาพปาเลสไตน์ เพื่อเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติเต็มรูปแบบ จากสถานะผู้สังเกตการณ์ในปัจจุบัน ตามข้อเสนอจากแอลจีเรีย
ปรากฏว่า เสียงส่วนใหญ่ 12 ประเทศ คือ สโลวีเนีย เซียร์ราลีโอน รัสเซีย เกาหลีใต้ โมซัมบิก มอลตา ญี่ปุ่น กายานา ฝรั่งเศส เอกวาดอร์ จีนและแอลจีเรีย เห็นชอบ สหราชอาณาจักรและสวิตเซอร์แลนด์งดออกเสียง ขณะที่สหรัฐฯในฐานะสมาชิกถาวรใน UNSC ใช้สิทธิ์ veto หรือยับยั้งมติดังกล่าว ทำให้ไม่ผ่านการลงมติจากที่ประชุม ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างนายอิสราเอล แคตส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลว่า อิสราเอลแสดงความไม่พอใจในเรื่องนี้ เตรียมเรียกเอกอัครราชทูตอิสราเอลกลับจาก 8 ประเทศสมาชิก UNSC ที่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล เช่น ฝรั่งเศส เอกวาดอร์ ญี่ปุ่น มอลตา เกาหลีใต้ สโลวีเนีย จีนและรัสเซีย
ส่วนอีก 4 ประเทศคือ แอลจีเรีย ซีเรียร์ราลีโอน กายานาและโมซัมบิก ซึ่งเห็นชอบกับข้อเสนอให้ปาเลสไตน์เป็นสมาชิกยูเอ็น ไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตหรือ สถานทูตในอิสราเอล
ขณะที่ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสของปาเลสไตน์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าววาฟา(Wafa)ของทางการปาเลสไตน์ วิจารณ์สหรัฐฯกรณีใช้สิทธิ์ยับยั้งมติของที่ประชุม UNSC ว่า ไม่ตรงตามความประสงค์ของชาวปาเลสไตน์ อีกทั้งสวนทางกับมติของประชาคมระหว่างประเทศ กล่าวหาสหรัฐฯฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่รักษาคำพูดเรื่องหลักการ 2 รัฐเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาพิพาทดินแดนอย่างสันติระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
#อิสราเอล
#เรียกทูตกลับ