ศาลสั่งจำคุก'ลูกรมช.'เมาขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท พักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน

19 เมษายน 2567, 14:26น.


         ศาลพิพากษาจำคุก 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท โทษจำคุกให้รอลงการลงโทษ 2 ปี เเละให้รายงานตัวคุมประพฤติ1 ปี พักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน     



       



         นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลเเขวง 1 ได้ยื่นฟ้อง นายพานิช พร้อมพัฒน์ วัย 46 ปี ขับรถในขณะเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร ที่สั่งให้มีการทดสอบว่าผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือเมาอย่างอื่น ด้วยวาจาต่อศาลเเขวงพระนครเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ศูนย์ราชการ ถนนเเจ้งวัฒนะ โดยนายพานิช จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา



          ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษาจำคุก 4 เดือน ปรับ 8 พันบาท จำเลยให้การรับสารภาพ คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท โทษจำคุกให้รอลงการลงโทษ 2 ปี เเละให้รายงานตัวคุมประพฤติ1 ปี พักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง



          ก่อนหน้านี้ ด.ต.พัชรพล สุขมา ผู้บังคับหมู่งานตรวจพิสูจน์ผู้ขับขี่ กองกำกับการ5กองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมตั้งด่าน ตรวจจับวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของตำรวจ กก.5 บก.จร. บนถนนรัชดาภิเษกบริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 31 พบรถ BMW ขับชะลอเข้าจุดตรวจ ท่าทีมีพิรุธ เมื่อถึงจุดตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกให้หยุด แต่คนขับรถไม่ยอมหยุดรถ พยายามขับรถฝ่าจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงใช้แผงเหล็กเลื่อนมากันเพื่อหยุดรถ แต่คนขับขับชนแผงเหล็ก  ต่อมาเมื่อรถเคลื่อนที่ไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันจับกุมคนขับลงมาจากรถ เพื่อทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งคนขับไม่ยินยอม ด.ต.พัชรพล จึงใช้เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ แบบไม่สัมผัสจ่อใกล้ปากและจมูกของผู้ต้องหาเพื่อวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ผลวัดได้ 183 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา 'ขับรถในขณะเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร ที่สั่งให้มีการทดสอบว่าผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุรา หรือเมาอย่างอื่น ' ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดีอาญาที่ 522/2567



          ด้านมูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ทำงานรณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับมากว่า 30 ปี  ขอเรียกร้องไปยังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลทุก ๆ ท่าน นโยบายเมาไม่ขับเป็นนโยบายที่ทุกรัฐบาลที่ผ่านมายึดถือปฏิบัติ  รัฐบาลชุดปัจจุบัน ก็ไม่มีข้อยกเว้น เพราะนโยบายดังกล่าวเป็นการลดปัจจัยเสี่ยงบนท้องถนน หยุดคนเมาไม่ให้มาขับรถ เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนท้องถนนดังนั้นถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและรัฐมนตรีทุกคน ตลอดจนบุคคลในครอบครัวต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพราะถ้าบุคคลในคณะรัฐบาลยังไม่ยึดถือกฎหมาย บุคคลในครอบครัวยังไม่ยึดถือกฎหมาย จะไปบอกให้ประชาชนเคารพกฎหมายได้อย่างไร



 



 



#ลูกรัฐมนตรีช่วยเมาขับ



#เมาแล้วขับ



 

ข่าวทั้งหมด

X