พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร ยืนยันแล้ว ได้ลงนามในคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ออกจากราชการไว้ก่อน จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า พัวพันคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์
นอกจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ถูกลงนามให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว ยังมีอีก 4 นายตำรวจใกล้ชิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ถูกเซ็นให้ออกจากราชการไว้ก่อนด้วยเช่นกัน ประกอบด้วย
พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา
พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธร สำโรงเหนือ (รองผกก.สส.สก.สำโรงเหนือ)
ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 กก1 บก.จร.
ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักทร ผบ.หมู่ สายตรวจ 3 บก.จร
ก่อนหน้านี้ พลตำรวจเอกวินัย ทองสอง หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เกือบ 30 คน คณะกรรมการมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับศาล เชื่อว่า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.มีส่วนร่วมในการกระทำผิดจริง โดยเป็นการฟอกเงิน ที่พบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันออนไลน์มายังบัญชีม้าและเชื่อมโยงมายังพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ จึงเชื่อว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์รู้และได้รับประโยชน์บางส่วนจากการกระทำดังกล่าว
มีรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ส่งตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการสำนักนายกฯกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ส่งผลทำให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ลงนามให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกดำเนินคดีอาญาคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ และคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้นพบว่ามีความผิดจริง
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สามารถอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้ โดยมีสิทธิชี้แจงข้อเท็จจริง และอุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการคัดเลือกกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)
#ให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการ
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ