สื่อออนไลน์ในประเทศเมียนมา หลายสำนัก เช่น People's Spring,Khurtai Maisoong,Tachileik News Agency ฯลฯ ได้รายงานตรงกันว่ามีการลอบโจมตีระดับผู้นำในประเทศเมียนมาหลายครั้ง ล่าสุด เมื่อเวลา 21.30-22.30 น.คืนวันที่ 14 เม.ย. กองกำลังปกป้องประชาชนหรือ PDF ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ได้ยิงจรวดขนาด 107 มม.จำนวนประมาณ 20 ลูก ใส่โรงเรียนนายร้อยทหารเมียนมา (Defence Services Academy : DSA) ตั้งอยู่ที่เมืองปยินอูลวิน ภูมิภาคมัณฑะเลย์ ตอนกลางค่อนข้างไปทางเหนือของประเทศเมียนมา โดยรายงานข่าวมีภาพประกอบเป็นจรวด 107 มม.แบบแสวงเครื่องและยิงไปยังโรงเรียนดังกล่าวขณะที่ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐเมียนมา ได้เดินทางไปพักและร่วมงานเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ในเมียนมาด้วย
หลังการยิงจรวดติดต่อกันนานประมาณ 1 ชั่วโมงมีรายงานข่าวที่ไม่ยืนยันว่ามีนักเรียนนายร้อยเสียชีวิตอย่างน้อย 2 นาย แต่ก็มีวัดถูกระเบิดและมีพระมรณภาพ 2 รูป ชาวบ้านเสียชีวิต 1 คน จรวดยังตกใส่โรงพยาบาลปยินอูลวิน ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต 1 คน มีคนได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน
ข่าวแจ้งว่าหลังเกิดเหตุ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่อีกหลายนายได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ออกจากเมืองไป ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ในเมืองบางส่วนถูกส่งไปรับการรักษาต่อที่เมืองมัณฑะเลย์ ท่ามกลางทหารที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ต้องสงสัยทั่วเมืองปยินอูลวินโดยเฉพาะจุดต้องสงสัยเป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับ DSA
ทั้งนี้มีรายงานข่าวหลายครั้งว่า PDF ได้ลอบโจมตีบ้านของนายทหารระดับสูงในหลายพื้นที่ในภูมิภาคมัณฑะเลย์ ขณะที่สำนักข่าว Tachileik New Agency รายงานว่ามีการลอบสังหารเจ้าหน้าที่ทหารที่บังคับให้ประชาชนไปภูมิภาคอิรวดีจนเสียชีวิตอีกด้วย
ล่าสุด สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างรัฐบาลทหารเมียนมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 15 เมษายนว่า นักรบจากกองกำลังพิทักษ์ประชาชน(พีดีเอฟ) ซึ่งเป็นกลุ่มพลเรือนติดอาวุธต่อต้านรัฐประหาร ได้ยิงจรวดโจมตีจำนวน 11 ลูกเข้ามาโดนโรงพยาบาล วัดและโรงแรม เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ในจำนวนนี้เป็นพระสงฆ์ 2 รูป และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 12 คน รัฐบาลทหารประณามการโจมตีดังกล่าวที่พุ่งเป้าพลเรือนซึ่งเกิดขึ้นในเมืองปยินอูลวิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถาบันวิชาการป้องกันทางทหารหรือเทียบเท่ากับโรงเรียนนายร้อยของเมียนมา
นายซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา ยืนยันว่ามีนักเรียนนายร้อยทหารได้รับบาดเจ็บ 3 ราย โฆษกของพีดีเอฟในเมืองมัณฑะเลย์ กล่าวว่า นักรบของกลุ่มตนทำการโจมตีดังกล่าว โดยมุ่งเป้าหมายไปยังสถาบันวิชาการป้องกันทางทหารดังกล่าวเท่านั้น
การโจมตีครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่กองทัพเมียนมากำลังเผชิญการสู้รบโจมตีจากกองกำลังผสมกลุ่มชาติพันธุ์และกองกำลังพีดีเอฟที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา โดยที่กองทัพเมียนมาได้สูญเสียพื้นที่มั่นให้กับกองกำลังฝ่ายต่อต้านไปหลายพื้นที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวชายขอบรายงานบทสัมภาษณ์ นายบันยา (Banya) โฆษกสภาบริหารชั่วคราวรัฐคะเรนนี (Karenni State Interim Executive Council-IEC) ถึงสถานการณ์ในรัฐคะเรนนี ตรงข้าม จ.แม่ฮ่องสอน ว่าขณะนี้ที่เมืองบอลาแค ยังมีฐานทหารพม่าของสภาบริหารแห่งรัฐพม่า (SAC) ซึ่งเป็นที่มั่นใหญ่ คาดว่ามีทหารประจำการ 500 นาย เป็นหนึ่งในไม่กี่ฐานสำคัญที่ยังคงเหลืออยู่ในรัฐคะเรนนี ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 เมษายน กองกำลังผสมที่นำโดยกองทัพคะเรนนี (Karenni Army-KA) ร่วมด้วย KNPLF, KNSO, และ PDF ได้จับกุมทหารพม่าได้ 58 นาย
นายบันยากล่าวว่า SAC ได้พยายามส่งกองกำลังเสริมมารอบหนึ่งแล้ว ครั้งนั้นสูญเสียทหารไป 60 คน ครั้งนี้ส่งกำลังเสริมมา 100 คน สูญเสียไปราว 50 นาย สำหรับพื้นที่เมืองผาซอง กองพันทหารราบ 134 นั้น กองกำลังฝ่ายต่อต้านสามารถยึดเกือบได้แล้ว และอีกฐานหนึ่งของ SAC ในเมืองบอลาเคยังยึดไม่ได้ แต่กองกำลังฝ่ายต่อต้านก็สกัดกั้นการส่งเสบียงทั้งหมด โดยเมืองบอลาเค เป็นระดับอำเภอใหญ่สำคัญของรัฐคะเรนนี ใหญ่กว่า อ.ผาซอง หรือ อ.แม่เจ๊ะ
สำหรับ พื้นที่ชายแดนไทย-คะเรนนี ขณะนี้ยังคงมีฐานทหารพม่า 1-2 จุด คือ จุดชายแดนไทย-คะเรนนี-รัฐฉาน “ต่องกะโตง” ใกล้ฝั่งไทยบริเวณบ้านในสอย อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จุดดังกล่าวเป็นฐานใหญ่ อยู่บนดอยสูง มีสองจุด และติดชายแดนรัฐฉาน มีกลุ่มที่เรียกว่า SSS คอยอุดหนุนทหารพม่าอยู่ตรงนี้
สถานการณ์ผู้พลัดถิ่น (IDPs) ในรัฐคะเรนนี นายบันยา กล่าวว่า ขณะนี้ในเขตรอบๆ ผาซองมีประมาณ 12,000 คน และมีมากแถวๆ อ.แม่เจ๊ะ ใกล้จุดผ่านแดน BP9 และ BP 10 โดหน่อกู
ส่วนการสู้รบในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ในวันเดียวกันสำนักข่าวกะเหรี่ยง Karen Information Center-KIC รายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ทหาร SAC หลายร้อยนายประจำการอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้พื้นที่กอกาเร็กยังคงพยายามเดินทางขึ้นไปยังเมืองเมียวดีโดยใช้ทางหลวงสายเอเชีย ในเขตพื้นที่กองพล 6 ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) โดยอ้างคำสัมภาษณ์ของชาวบ้านว่ามีรถหุ้มเกราะ รถทหาร มีทหารประมาณ200 คน บ้างก็อยู่ในหมู่บ้านและบ้างก็อยู่บนถนนสายเอเชีย
สำนักข่าวกะเหรี่ยง ระบุว่า กองกำลัง SAC พยายามซ่อมแซมสะพานบนถนนสายเอเชีย ซึ่งถูกทำลายโดยกองกำลังปฏิวัติเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2566 แต่ก็ถูกกองกำลังปฏิวัติขัดขวางเมื่อทหารพม่าพยายามเดินทางไปตามถนนเอเชีย
#สู้รบในเมียนมา
CR:สำนักข่าวชายขอบ