นานาชาติ ติดตามสถานการณ์หลังจากอิหร่าน ยิงขีปนาวุธหลายลูกใส่อิสราเอลเมื่อค่ำวันเสาร์(13 เม.ย.67) กองทัพอิสราเอล กล่าวว่า 99%ของขีปนาวุธมากกว่า 300 ลูกถูกอิสราเอลและพันธมิตรสกัดกั้น
ผลการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ของผู้นำกลุ่ม 7 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ กลุ่ม G7 ประกอบด้วย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง อิตาลี ในฐานะประธานหมุนเวียน ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้อิหร่านยับยั้งชั่งใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลางมีความเสี่ยงสูง ซึ่งกลุ่ม G7 พร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมพยายามป้องกันไม่ให้ความรุนแรงขยายวงกว้าง กลุ่ม G7 มีกำหนดพบกันที่อิตาลีระหว่างวันที่ 17-19 เม.ย.67
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เตือนนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกฯอิสราเอลว่า สหรัฐฯ จะไม่ร่วมกับอิสราเอลตอบโต้อิหร่าน หากอิสราเอลตัดสินใจตอบโต้
นายจอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติระดับสูงของทำเนียบขาว กล่าวกับรายการ This Week ของ ABC เมื่อวันอาทิตย์ (14 เม.ย.67) ว่าสหรัฐฯ จะยังคงช่วยอิสราเอลแต่ไม่ต้องการทำสงคราม
สื่อของรัฐบาลจอร์แดน รายงานว่า กษัตริย์อับดุลลาห์แห่งจอร์แดน กล่าวกับ ประธานาธิบดีไบเดนทางโทรศัพท์ว่า หากอิสราเอล ยกระดับความขัดแย้ง จะทำให้ความขัดแย้งในภูมิภาคขยายวงกว้าง
#G7
#อิหร่าน