เอเอฟพี รายงานว่า ชาวอิหร่านหลายพันคนรวมกลุ่มกันในกรุงเตหะรานและอีกหลายเมืองเมื่อเช้ามืดของวันนี้ เพื่อสนับสนุนการที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านระดมโจมตีอิสราเอล ซึ่งเป็นคู่ปรปักษ์ของอิหร่านด้วยขีปนาวุธและโดรนเมื่อคืนนี้ ภายใต้ปฏิบัติการเรียกว่า Operation Honest Promise ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะที่บริเวณจัตุรัสเฟเลสติน (ปาเลสไตน์) กรุงเตหะราน โดยอิหร่านยืนยันว่า การโจมตีอิสราเอลครั้งนี้เพื่อป้องกันตนเอง กล่าวหาอิสราเอลละเมิดอธิปไตย กรณีโจมตีทางอากาศยังสถานกงสุลอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส ซีเรียเมื่อวันที่ 1 เม.ย.มีทหารอิหร่านเสียชีวิต 7 นาย รวมถึงพลจัตวา โมฮัมหมัด เรซา ซาเฮดี อดีตผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังคุดส์
ผู้ประท้วงชูธงชาติอิหร่านและปาเลสไตน์ ตะโกนว่า ความตายจงบังเกิดกับอิสราเอลและสหรัฐฯ พร้อมชูแผ่นป้ายมีข้อความว่า ชัยชนะของพระเจ้าใกล้เข้ามาทุกขณะ นอกจากนี้ แผ่นป้ายที่ผู้ประท้วงนำมาแขวนที่บริเวณชุมนุมที่จัตุรัสเฟเลสติน มีข้อความภาษาฮิบรูของอิสราเอลว่า การโจมตีครั้งต่อไปจะรุนแรงกว่านี้ ขอให้อิสราเอลเตรียมเข้าไปยังหลุมหลบภัย เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ผู้ประท้วงอีกกลุ่ม รวมตัวที่บริเวณด้านนอกของสถานทูตสหราชอาณาจักรประจำกรุงเตหะรานด้วย
ส่วนที่เมืองอื่นๆ ชาวอิหร่านกลุ่มหนึ่งรวมกลุ่มกันในเมืองอิสฟาฮาน เมืองใหญ่อันดับที่ 3 ของอิหร่าน ซึ่งเป็นท้องที่มีการฝังศพของพลจัตวาซาเฮดี อดีตผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังคุดส์ นอกจากนั้น ผู้ประท้วงอีกกลุ่มหนึ่งชุมนุมใกล้หลุมฝังศพ ของพลโทกอเซม โซเลย์มอนี อดีตผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ ที่เมืองเคอร์มาน ทางภาคใต้ของอิหร่านเพื่อรำลึกพลโทโซเลย์มอนี ที่เสียชีวิตจากการโจมตีด้วยโดรนของสหรัฐฯ ขณะปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงในกรุงแบกแดด อิรัก เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2563
ทาสนิม สำนักข่าวกึ่งทางการของอิหร่าน เรียกการโจมตีอิสราเอลครั้งนี้ว่ามีความสลับซับซ้อน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับพันธมิตรของอิหร่านในเยเมน เลบานอนและอิรัก ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากอิหร่านเท่านั้น หากแต่เป็นการโจมตีจากอิหร่าน โดยประสานความร่วมมือจากพันธมิตรกลุ่มติดอาวุธใน 4 ประเทศดังกล่าว เพื่อโจมตีอิสราเอลพร้อมๆกัน
#ชาวอิหร่าน
#สนับสนุนการโจมตีอิสราเอล