นายบุญภพ จันทมัตตุการ ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย เปิดเผยกับสถานีวิทยุจส.100 ถึงกรณีที่นักเรียนชั้นม.6 ของโรงเรียนสอบคณะแพทย์ ได้ทั้งหมด 42 คน ว่าเป็นนร.มาจากหลายห้องรวมกัน ไม่ใช่ยกห้อง เด็ก 42 คนที่สอบได้แพทย์ มาจากคัดเลือกรอบแรกรอบ 1 Portfolio รอบที่2 โควต้า ปีนี้สอบติด มข. 42คน ศิริราช1 คน นร.ที่สอบได้เป็นเด็กเรียนโครงการ Gifted Program แผนกวิทย์-คณิต
แต่ละแผนการเรียน ก็จะมีครู คอยกำกับดูแลหลักสูตรพื้นฐานเหมือนกัน จะต้องสอดคล้องกัน โรงเรียนทำโครงการหัวโขกฝา 8 ปีแต่ละห้องมีนร.เข้าโครงการปีละ30 คน ตั้งแต่ปี2560มีนร.สอบติดแพทย์54คน /ปี2561สอบติดแพทย์34คน /ปี2562 สอบติดแพทย์54คน/ปี2563สอบติดแพทย์ 56คน/ ปี2564สอบติดแพทย์ 41คน / ปี2565สอบติดแพทย์67คน/ปี2566สอบติดแพทย์66คน /ปี2567สอบติดแพทย์42คน
วิธีการโรงเรียนมีนร.ที่เป็นเด็กท็อปเป็นส่วนใหญ่เป็นทุนอยู่แล้ว จึงใช้การย่นเวลาเรียนตามหลักสูตรพื้นฐานให้สั้นลง เพื่อมีเวลาที่ไปพัฒนาเด็กมากขึ้น เพิ่มความรู้จะต้องต่อยอดให้ เมื่อเด็กรับได้จึงมีเวลาไปเพิ่มความรู้อื่นๆให้กับเด็ก โรงเรียนใช้นวัตกรรมหัวโขกฝา ซึ่งเป็นความสมัครใจของนักเรียนที่จะร่วมโครงการหัวโขกฝา ไม่บังคับ เพราะถ้าเข้าร่วมแล้ว หลังเลิกเรียนจะต้องเรียนเพิ่มอีก1ชม.-1ช.ม.ครึ่ง และวันเสาร์เรียนเพิ่มอีก1วัน โรงเรียนดำเนินการตั้งแต่ม.4 –ม.6เป็นนวัตกรรม ที่ทำให้นร.มีความมั่นใจ ว่าองค์ความรู้แน่น
เด็กต้องทำแบบทดสอบซ้ำเดิมๆ มีการบ้านต้องทำทุกวัน จนทำได้ถูกต้องครบหมดทุกข้อ ซึ่งครูต้องรับภาระหนักในการตรวจแบบทดสอบ ชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อน จุดบกพร่องให้ เพื่ออุดรอยรั่วทั้งหมด ครูบางคนนอนตี1ตี2 เพื่อตรวจแบบทดสอบ เพื่อชี้แนะกลับไปให้นร.และผู้ปกครอง ถ้าทำไม่ได้ต้องมาเข้าคลินิค ที่โรงเรียนมีคลินิกเพื่อให้เด็กมาแก้ไข เมื่อผ่านกระบวนการหัวโขกฟ้าแล้ว เราจะปิดจุดอ่อน ให้หมด นร.จะมีความรู้และความมั่นใจ ไปสอบอะไรก็ได้หมด ความจริงโรงเรียนเราปูพื้นฐานมาตั้งแต่ม.1แต่เริ่มจริงจังตอน ม.4เรื่องความเครียด ก็มีทั้งเครียดไม่เครียด โรงเรียนไม่ได้มุ่งเน้นวิชาการ อย่างเดียว มีกิจกรรมอื่นๆมากมาย เพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย เช่นกีฬา ฯลฯ ตอนนี้ นร.ระดับชั้น ม.ปลาย มีมาจากตจว.เยอะทั้งจากรอบ จ.ร้อยเอ็ด และมาจากกทม.ก็มี
#โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย