เทสลา ยอมจ่ายค่าไกล่เกลี่ยปิดคดีให้กับครอบครัววิศวกร ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ

          หลังจากครอบครัวของนายวอลเตอร์ ฮวง วิศวกรของบริษัทแอปเปิ้ลของสหรัฐฯที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์เทสลา รุ่น X ของเขา ซึ่งติดตั้งระบบช่วยขับขี่ (autopilot) พุ่งชนขอบคอนกรีตกั้นทาง ขณะแล่นบนทางด่วนในย่านซิลิคอนวัลเลย์ นครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2561 ได้ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐนิวยอร์ก เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของสหรัฐฯ อ้างว่า ระบบช่วยขับขี่ คือ ต้นเหตุสำคัญของอุบัติเหตุดังกล่าว พร้อมเรียกค่าเสียหายจากการทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตที่เกิดขึ้นโดยมิชอบ ซึ่งศาลนัดไต่สวนคดีเมื่อวันจันทร์(8 เม.ย.2567)

         ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า บริษัทเทสลาตกลงจ่ายค่าไกล่เกลี่ยให้กับครอบครัวของผู้เสียหาย เพื่อปิดคดี ก่อนเริ่มการไต่สวนคดี แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเรื่องวงเงินค่าเสียหายที่บริษัทเทสลาจ่ายให้กับครอบครัวของผู้เสียหาย ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติ(NTSB)ระบุในผลสอบสวนว่า นายฮวงเปิดใช้ระบบช่วยขับขี่เกือบ 19 นาที ก่อนเกิดอุบัติเหตุ รถแล่นด้วยความเร็ว 71 ไมล์ต่อชั่วโมง ก่อนพุ่งออกนอกทางด่วน ชนขอบกั้นทางอย่างรุนแรง ทำให้นายฮวงเสียชีวิต

         การไกล่เกลี่ยครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญสำหรับบริษัทเทสลา ซึ่งมียอดขายรถลดลงราวหนึ่งในสามในปีนี้ ก่อนหน้านี้ นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา และบริษัทเทสลา กล่าวว่า ระบบช่วยขับขี่และเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติของบริษัท ล้ำหน้ากว่าคู่แข่งอื่นๆ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทเทสลากลายเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก แซงหน้าบริษัท BYD คู่แข่งจากจีน แต่ครอบครัวของนายฮวงโต้แย้งว่า บริษัทเทสลาโฆษณาคุณสมบัติของเทคโนโลยีช่วยขับขี่เกินจริง และไม่ปลอดภัยสมดั่งคำโฆษณาของบริษัท

         ตลอด 6 ปีนับแต่นายฮวงเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ บริษัทเทสลาเริ่มถูกหลายฝ่ายตรวจสอบมากขึ้นในเรื่องเทคโนโลยีช่วยขับขี่ โดยเฉพาะสำนักบริหารความปลอดภัยด้านจราจรบนทางด่วนแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Highway Traffic Safety Administration)ระบุในรายงานเดือนธ.ค.2566ว่า รถเทสลาซึ่งติดตั้งระบบช่วยขับ ประสบอุบัติเหตุราว 1,000 ครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมเตือนว่า การติดระบบช่วยขับทำให้ผู้ขับขี่เข้าใจผิด คิดว่า รถสามารถแล่นได้อย่างปลอดภัย

#เทสลา

#จ่ายค่าเสียหายปิดคดี

#อุบัติเหตุทางรถยนต์