กองทัพเมียนมา บังคับเกณฑ์ชายฉกรรจ์ชาวโรฮิงญา 100 คนมาเป็นทหาร ตั้งแต่กลางเดือน ก.พ.

08 เมษายน 2567, 11:00น.


            หลังจากที่กองทัพเมียนมา เพลี่ยงพล้ำในการสู้รบกับกองกำลังกะเหรี่ยง KNU เสียเมืองเมียวดี (Myawaddy)ทางฝั่งชายแดนทางภาคตะวันออกซึ่งติดต่อกับประเทศไทยให้กับกะเหรี่ยง KNU



            รายงานระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศและฝ่ายความมั่นคง หลังการประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ ( 9 เม.ย.67) ประกอบด้วย ผบ.กองทัพไทย,ผบ.ทบ. รมว.ต่างประเทศ,รมช.ต่างประเทศ,ที่ปรึกษารัฐมนตรีต่างประเทศ หลังจากนั้น รมว.ต่างประเทศ จะแถลงข่าว



            อีกหนึ่งสัญญาณที่แสดงว่า กองทัพเมียนมาเริ่มเข้าตาจน หมดทางเลือกในการเกณฑ์ทหาร หลังรบแพ้กองกำลังของชนกลุ่มน้อย เสียทหารจำนวนมากและเสียดินแดนให้กับกองกำลังของชนกลุ่มน้อย รวมถึงกองกำลังของกองทัพอาระกันของชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่



           บีบีซี รายงานข่าวเจาะลึก สัมภาษณ์นายโมฮัมเหม็ด อายุ 31 ปี ชาวมุสลิมโรฮิงญา ชนกลุ่มนัอย ซึ่งอาศัยอยู่ในค่ายอพยพบอว์ ดู ฟา (Baw Du Pha) เมืองซิตตเว รัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของเมียนมา เปิดเผยว่า กองทัพเมียนมาบังคับให้ชายฉกรรจ์ชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 100 คนมาเป็นทหารเกณฑ์เสริมกำลังพลในกองทัพ ทั้งๆที่เมื่อ 7 ปีก่อนหรือปี 2555 กองทัพเมียนมาบุกเข้าปราบปรามชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ มีผู้เสียชีวิตหลายพันราย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สหประชาชาติ(UN)ใช้คำว่าเป็นการปราบปรามเพื่อขับไล่ชนกลุ่มน้อยให้หมดไปจากประเทศ



         นายโมฮัมเหม็ด ซึ่งมีลูก 3 คน ยอมรับว่ารู้สึกหวั่นกลัว แต่จำเป็นต้องไปเป็นทหารในกองทัพเมียนมา ก่อนหน้านี้ ช่วงดึกวันหนึ่งกลางเดือนก.พ.67ผู้นำชุมชนเข้ามาบอกว่า เขาจะต้องไปเป็นทหาร พร้อมเข้ารับการฝึกทางทหาร ตามคำสั่งของกองทัพเมียนมา พร้อมเตือนว่า ถ้าเขาปฏิเสธ เขาและครอบครัวอาจจะไม่ได้รับความปลอดภัยด้วย สิ่งที่นายโมฮัมเหม็ดไม่สบายใจ เช่น ทางการเมียนมายังไม่ยอมให้สัญชาติเมียนมาแก่ชาวโรฮิงญา ทำให้ถูกจำกัดสิทธิ์เสรีภาพหลายอย่าง เช่น ห้ามเดินทางออกไปนอกชุมชน



         นอกจากนี้ บีบีซี สัมภาษณ์ชาวโรฮิงญาอีกหลายคน ซึ่งพูดตรงกันว่า ทหารเมียนมา ได้เข้ามาที่ค่ายอพยพชาวโรฮิงญา พร้อมมีคำสั่งให้ชายฉกรรจ์ไปรายงานตัวเข้ารับการฝึกทางทหาร ในปัจจุบัน ผู้ไร้บ้านชาวโรฮิงฮาราว 150,000 อาศัยอยู่ในค่ายอพยพต่างๆของเมียนมาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา



         ก่อนหน้านี้ กองทัพเมียนมาปราบปรามชาวโรฮิงญาครั้งใหญ่อีกระลอกหนึ่งในเดือนส.ค.60 มีผู้เสียชีวิตหลายพันราย ขณะเดียวกัน ชาวโรฮิงญา 700,000 คนหลบหนีจากรัฐยะไข่ไปบังกลาเทศ ประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ประเทศแกมเบียในทวีปแอฟริกาและองค์การความร่วมมืออิสลาม ร่วมเป็นโจทก์ฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในนครเฮก เนเธอร์แลนด์เมื่อปี 62 เพื่อให้ดำเนินคดีกับกองทัพเมียนมา ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุชาวโรฮิงญา



 



 



#เมียนมา



#เกณฑ์ทหาร



#ชาวโรฮิงญา

ข่าวทั้งหมด

X