มติ UNHRC เรียกร้องอิสราเอลรับผิดชอบเหตุโจมตีในฉนวนกาซา

          คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ รับรองข้อมติที่เรียกร้องให้อิสราเอล ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่อาจถือเป็นอาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซา  มติดังกล่าวได้รับเสียงสนับสนุนจากชาติสมาชิก UNHRC 28 ประเทศ จากทั้งหมด 47 ประเทศ และมีเสียงคัดค้าน 6 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี, อาร์เจนตินา, บัลแกเรีย, มาลาวี และปารากวัย และงดออกเสียง 13 ประเทศ ถือเป็นครั้งแรกที่หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ได้แสดงจุดยืนในสงครามดังกล่าวที่นองเลือดที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งยืดเยื้อมานานเข้าสู่เดือนที่ 6  พร้อมเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ยุติการขายและการส่งอาวุธ กระสุนปืน และยุทโธปกรณ์ทางทหารอื่นๆ ให้แก่อิสราเอล เพื่อป้องกันการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และการละเมิดสิทธิมนุษยชน

          เมราฟ ไอลอน ชาฮาร์ ผู้แทนถาวรของอิสราเอลประจำสหประชาชาติในกรุงเจนีวา กล่าวหาว่า UNHRC "ได้ละทิ้งประชาชนอิสราเอลและปกป้องฮามาสมานานแล้ว"

          ด้านสหรัฐได้ให้คำมั่นก่อนหน้านี้ว่าจะคัดค้านมติดังกล่าว เนื่องจากไม่มีการประณามฮามาสอย่างเฉพาะเจาะจงสำหรับการก่อเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 และไม่มีการอ้างอิงถึงลักษณะการก่อการร้ายของการก่อเหตุครั้งนั้น  แต่ก็ได้ระบุถึงอิสราเอลซึ่งเป็นชาติพันธมิตร ยังไม่ได้ดำเนินการมากพอเพื่อบรรเทาอันตรายต่อพลเรือน

#สงครามอิสราเอลฮามาส