บ่ายวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เพื่อหารือประเด็นการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ที่ต้องเสนอไปยังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญภายในวันเดียวกัน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังการประชุมครม.นัดพิเศษในวันนี้แล้วยังมีเวลาแก้ไขอีก 2-3 ชั่วโมงก่อนส่งข้อเสนอไปยังกมธ.ยกร่างฯ ภายในวันเดียวกัน
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯ กล่าวว่า จากวันนี้ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม กมธ.ยกร่างฯ จะทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับสุดท้ายเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ให้ความเห็นชอบ เว้นแต่รัฐบาลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 เพื่อขยายเวลาออกไป 1 เดือน ก็จะเป็นวันที่ 23 สิงหาคม
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแสวงหาข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จัดซื้อสติ๊กเกอร์ไลน์ค่านิยม 12 ประการในราคาที่แพงเกินจริง ซึ่งคาดว่าจะสามารถรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. ทราบได้เร็วๆ นี้ เพื่อให้พิจารณาว่ามีมูลเพียงพอหรือไม่ หากมีมูลจะดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนต่อไป แต่หากไม่มีมูลเพียงพออาจพิจารณาให้คำร้องนั้นตกไป
ส่วนความคืบหน้าการสืบสวนสอบคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในคดี เปิดเผยว่า หลังจากที่อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งให้พนักงานอัยการมาร่วมทำการสอบสวนกับพนักงานสอบสวนของฝ่ายตำรวจ ขณะนี้ได้วางกรอบเพื่อเชื่อมโยงพยานหลักฐานต่างๆ ตั้งแต่ปาดังเบซาร์ สตูล และระนอง โดยในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ จะมีการสรุปความคืบหน้าการสอบสวนและวางแนวทางเร่งรัดการทำงาน เพื่อให้เสร็จอย่างช้าภายในเดือนมิถุนายนนี้ และส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณา นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนเตรียมตั้งข้อหาอาชญากรข้ามชาติเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา เนื่องจากมูลความผิดเชื่อมโยงระหว่างประเทศนอกเหนือจาก 3 ข้อหาที่ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้ คือสมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์, ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันเรียกค่าไถ่ ส่วนผลการสอบสวนนั้นมีหลายคนที่ยอมรับสารภาพแต่ผู้ต้องหาคนสำคัญยังให้การปฏิเสธ
ส่วนความคืบหน้าการติดตามจับกุมผู้ต้องหานั้นล่าสุดยังไม่มีการออกหมายจับหรือจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม ขณะนี้หมายจับยังอยู่ที่ 77 หมาย ควบคุมตัวได้แล้ว 46 คน และยังหลบหนีอีก 31 คน ซึ่งผู้ที่ยังหลบหนีหลายคนพยายามติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว
ในการที่นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารของกระทรวงฯ พร้อมวางแผนนโยบายปี 2558-2559 ซึ่งประกอบไปด้วยการวางแผนปรับโครงสร้างการผลิตและการเพาะปลูก และการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ที่จะมี 3 ขั้นตอน คือ การกำหนดนโยบายความเหมาะสมของจำนวนปลาและสัตว์น้ำเพื่อรักษาสมดุลทางชีวภาพ รวมถึงเรือและเครื่องมือประมงด้วย , ร่างกฎหมายเพิ่มเติมซึ่งอาจเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หรือพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) แล้วแต่ความเหมาะสม โดยจะเน้นการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายเก่าเน้นด้านอุตสาหกรรม ทั้งนี้คาดว่าจะร่างเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ และสุดท้ายคือข้อเสนอปรับปรุงบังคับใช้เครื่องมือติดตามเรือ บริการจัดการข้อมูล การป้องกันปัญหาการใช้แรงงานบนเรือประมงซึ่งจะต้องมีการจดทะเบียนแรงงานประมงให้ถูกกฎหมายและมีหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง โดยคาดว่าจะแก้ปัญหาเรื่องการใช้แรงงานประมงเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม แม้การแก้ปัญหาทำประมงผิดกฎหมายอาจทำให้ไม่เสร็จภายในเวลา 6 เดือน แต่เราจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อแสดงให้สหภาพยุโรป (อียู) เห็นถึงวิธีแก้ไขปัญหาของเรา ก่อนที่อียูจะประกาศทบทวนมาตรการให้ใบเหลืองกับประเทศไทยในเดือนตุลาคมนี้
นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคเกษตรทั้งระบบมูลหนี้กว่า 1 ล้าน 2 แสนล้านบาท โดยกลุ่มลูกหนี้ที่ขึ้นทะเบียนหนี้ (ทะเบียนเกษตรกร) ไว้กับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ มีการทำแผนชำระหนี้แทนเกษตรกรไว้ 3,000 ล้านบาท ซึ่งตามแผนการชำระหนี้แทนเกษตรกร ให้สำนักงานกองทุน ฟื้นฟูฯ เร่งชำระหนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน โดยให้ศูนย์ประสานการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรติดตามและ ตรวจสอบข้อมูลหนี้กับสถาบันการเงินที่ยังไม่ส่งข้อมูลเร่งรัดให้ส่งภายในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ และให้สถาบันการเงินเจ้าหนี้ชะลอการดำเนินการทางกฎหมายทุกกรณีกับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ออกไปจนกว่าจะชำระหนี้แล้วเสร็จ ส่วนที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ที่มีรายชื่อในโครงการปรับโครงสร้างหนี้และพื้นฟูอาชีพเกษตรกร
ยังมีเรื่องการขึ้นเงินเดือนข้าราชการและลูกจ้างประจำ ซึ่งนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจาก พ.ร.บ.การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม กรมบัญชีกลางพร้อมที่จะโอนเงินส่วนที่ปรับขึ้นไปให้ส่วนราชการในรอบการจ่ายเงินเดือนของเดือนมิถุนายน ที่จะจ่ายทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน เนื่องจากรอบเดือนพฤษภาคมโอนเข้าบัญชีของหน่วยราชการไปตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคมไปแล้ว โดยส่วนราชการต่างๆ ต้องจัดทำเงินเดือนของข้าราชการส่งมายังกรมบัญชีกลางภายในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ ซึ่งกรมพร้อมจ่ายให้ทันทีในงวดวันที่ 25 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป โดยจ่ายทั้งเงินเดือนใหม่ของเดือนมิถุนายนพร้อมกับเงินตกเบิกอีก 6 เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557-พฤษภาคม 2558 ด้วย
นอกจากนี้ กรมบัญชีกลาง เตรียมเสนอกระทรวงการคลังให้ประกาศปรับโครงสร้างเงินเดือนลูกจ้างประจำให้สอดคล้องกับข้าราชการ ซึ่งจะมีลูกจ้างประจำได้รับประโยชน์ 155,053 คน ใช้งบประมาณ 984 ล้านบาท (ธันวาคม 2557-กันยายน 2558) โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 งบบุคลากรของแต่ละส่วนราชการ หากงบประมาณไม่พอ จะพิจารณาจัดสรรเงินงบกลางให้กรมบัญชีกลางพร้อมดำเนินการทันทีเมื่อกฎหมายประกาศใช้
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการปรับปรุงและแก้ไขสถานการณ์ด้านการบินของไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการเพิ่มกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการ และอัตราค่าตอบแทนพนักงานในกลุ่มงานเชี่ยวชาญพิเศษ กลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ และกลุ่มงานเทคนิคพิเศษ จำนวน 48 อัตราของกรมการบินพลเรือน ซึ่งครม.เห็นชอบให้ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนของระบบราชการปกติ
*-*