*ไอเอสคุมจุดผ่านแดนอิรัก-ซีเรีย/เปิดอีเมลคลินตันไม่มีความลับราชการ/เยอรมนีห่วงประชุมจี7/อินเดียเผชิญคลื่นความร้อน*

25 พฤษภาคม 2558, 06:13น.


กองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) เข้าควบคุมจุดผ่านแดนระหว่างอิรักกับซีเรียได้ทั้งหมด หลังยึดจุดผ่านแดนซีเรียฝั่งอิรักได้สำเร็จ และทำให้สามารถควบคุมถนนหลัก 2 สายที่เชื่อมระหว่างซีเรียกับจังหวัดอันบาร์ของอิรัก ต่อเนื่องจากการที่ยึดเมืองรามาดีของอิรัก และเมืองพาลมีราของซีเรีย ซึ่งยังทำให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการที่กองทัพสหรัฐและมิตรประเทศใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศมานาน 8 เดือน



การรุกรานของไอเอสในอิรักและซีเรียทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องละทิ้งบ้านเรือน ส่วนการที่เมืองรามาดีถูกไอเอสยึดครอง ส่งผลให้มีผู้อพยพอย่างน้อย 55,000 คน ขณะที่ยอดของผู้อพยพตั้งแต่เกิดการสู้รบกับไอเอสมีมากกว่า 2 ล้าน 8 แสนคน



ด้านทางการซาอุดีอาระเบีย รายงานผลการสอบสวนเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่โจมตีมัสยิดอิหม่าม อาลี ของเมือง กาติฟ ในจังหวัดอีสเทิร์น ทางตะวันออกของประเทศ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 ศพและบาดเจ็บ 101 คนนั้น มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธไอเอส และเป็นการโจมตีในดินแดนของ ซาอุดิอาระเบียเป็นครั้งแรก ซึ่งทางการเปิดเผยด้วยว่า คนร้ายคือนายซาลิห์ บิน อับดุลราห์มาน ซาลิห์ อัล-กิชามี เป็นชาวซาอุดิอาระบีย



กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เริ่มเผยแพร่อีเมลชุดแรกจำนวนหลายร้อยฉบับจากบัญชีอีเมลส่วนตัวที่นางฮิลลารี คลินตันใช้ระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งทำให้นางคลินตันถูกโจมตีว่า ใช้อีเมลส่วนตัวในการรับส่งข้อมูลลับของราชการ ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ โดยอีเมลชุดแรกนี้ถูกเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตหลังมีการส่งมอบให้คณะกรรมาธิการสภาคองเกรส มีหลายฉบับเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่สถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเบงกาซี ของลิเบีย ถูกกลุ่มติดอาวุธโจมตีเมื่อปี 2555 อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯแถลงว่า นางคลินตันไม่มีบัญชีอีเมลของรัฐบาลสำหรับใช้ติดต่องานระหว่างการดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2552-2556 ซึ่งนางกล่าวว่า ยินดีที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้



หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่าจากการตรวจสอบพบว่านางคลินตันไม่ได้ใช้อีเมลส่วนตัวในการรับส่งข้อมูลลับทางราชการ เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการแสดงความวิตกหลังเกิดเหตุโจมตีสถานกงสุลและการติดต่อธุระส่วนตัวอื่นๆ



นายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี คาดว่าที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือ G-7 ที่กำลังจะเริ่มขึ้นระหว่าง 27-29 พฤษภาคมนี้ที่เมืองเดรสเดน อาจมีสาระสำคัญอยู่ที่วิกฤตกรีซ และรัฐบาลเยอรมนีอาจถูกตำหนิที่ยึดมั่นให้กรีซดำเนินมาตรการตัดลดรายจ่ายอย่างเข้มงวด จนละเลยกลไกในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ



สายการบินระหว่างประเทศหลายแห่งสั่งระงับเที่ยวบินเข้า-ออกประเทศไนจีเรีย เนื่องจากปัญหาขาดแคลนพลังงานเชื้อเพลิงจนไม่มีน้ำมันสำรองสำหรับให้บริการเที่ยวบินต่างๆ และต้องปิดบริการสถานีบริการน้ำมันและสถานีรถประจำทาง รวมถึงสถานีวิทยุกว่าครึ่งของเมืองลากอส ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจในไนจีเรีย ทำให้มีการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา



ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ปราศรัยต้อนรับคณะนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นซึ่งเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง นำโดยนายโทชิฮิโระ นิไค อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจแห่งญี่ปุ่น โดยยืนยันว่า มิตรภาพที่ดีระหว่างจีนและญี่ปุ่นเป็นความสัมพันธ์ที่ควรค่าแก่การรักษา แต่ขณะเดียวกันรัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องยอมรับข้อเท็จจริงในอดีตที่กองทัพญี่ปุ่นเคยรุกรานดินแดนและประชาชนจีน เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ



ส่วนพื้นที่ทางภาคกลางและใต้ของจีน มีฝนตกหนักทำให้เกิดดินโคลนถล่มและน้ำท่วม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ศพ และสูญหาย 13 คน มณฑลที่ได้รับผลกระทบ 6 มณฑลจากฝนตกหนักสุดในรอบ 40 ปี มณฑลกุ้ยโจวมีผู้เสียชีวิต 11 ศพ และสูญหาย 8 ราย มณฑลฝูเจี้ยนชาวบ้านเสียชีวิตจากโคลนถล่ม 5 ศพ, 4 คนจมน้ำตาย และสูญหาย 2 คน และที่มณฑลเจียงซี ตาย 5 ศพจากเหตุอาคารถล่ม, 2 ศพจากดินถล่ม และ 1 รายจากฟ้าผ่า



ที่บุรุนดีเกิดเหตุลอบสังหารนายเซดี เฟรูซิ หัวหน้าพรรคสหภาพเพื่อสันติและพัฒนา (ยูพีดี) ที่เป็นฝ่ายค้านและต่อต้านการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 3 ของนายปิแอร์ กูรุนซีซา ผู้นำคนปัจจุบัน โดยเขาถูกยิงเสียชีวิตขณะเดินกลับบ้านพักในย่านกาการา กรุงบูจุมบูรา ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้ และทำให้แกนนำกลุ่มต่อต้านผู้นำยกเลิกแผนเจรจากับตัวแทนรัฐบาลทันที แต่โฆษกรัฐบาลยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น



รัฐอานธรประเทศ และรัฐเทลันกานาของอินเดีย เผชิญคลื่นความร้อน หรือฮีตเวฟที่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 2 รัฐทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดียตลอดช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวบ้านเสียชีวิตแล้ว 230 ศพ โดยเฉพาะเมืองกัมมัม รัฐเทลันกานา ซึ่งอุณหภูมิร้อนที่สุด 48 องศาเซลเซียส ทั้งคาดว่าคลื่นความร้อนจะปกคลุมพื้นที่ต่อเนื่องไปอีกราว 1 สัปดาห์ จนกว่าจะถึงช่วงฤดูมรสุมซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน



และปิดท้ายที่รายงานการเสียชีวิตของนายจอห์น ฟอร์บส์ แนช จูเนียร์ นักคณิตศาสตร์ชื่อดังชาวอเมริกัน วัย 86 ปี กับนางอลิเซีย โลเปซ ภรรยาวัย 82 ปีของเขา ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อรถแท็กซี่ที่สองสามีภรรยาโดยสารมาเกิดสูญเสียการควบคุมและพุ่งกระแทกราวกั้นข้างทาง ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่งใกล้กับเมืองมอนโร มลรัฐนิวเจอร์ซีย์ โดยพบหลักฐานว่าทั้งร่างของทั้ง คนกระเด็นออกมานอกตัวรถ



ทั้งนี้ ภาพยนตร์เรื่องA Beautiful Mind ซึ่งนำแสดงโดยรัสเซลล์ โครว์ สร้างมาจากเรื่องจริงของแนช ที่ต้องต่อสู้กับอาการหวาดระแวงมาอย่างยาวนานท่ามกลางกำลังใจจากภรรยาและเพื่อน เขายังเป็นบุคลากรระดับแถวหน้าของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน และเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 1994

      



*-*

ข่าวทั้งหมด

X