สัญญาณเศรษฐกิจของสหรัฐฯและจีน ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลก ปิดตลาด เมื่อคืนนี้ (1เม.ย.67) ปรับตัวสูงขึ้นราว 1% แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน คาดหมายว่า เศรษฐกิจทั้งสองประเทศจะช่วยเพิ่มอุปสงค์น้ำมัน
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพ.ค.67 เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ ปิดที่ 83.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิ.ย.67 เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ ปิดที่ 87.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สถาบันจัดการอุปทานสหรัฐฯ(ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.3 ในเดือนมี.ค.67 จากระดับ 47.8 เมื่อเดือนก.พ.67 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 48.1 ชี้ว่า ภาคการผลิต ซึ่งเคยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยระดับสูง กำลังฟื้นตัว ดัชนีปรับตัวสูงกว่าระดับ 50 ชี้ว่าภาคการผลิตสหรัฐฯ มีการขยายตัว ครั้งแรกในรอบ 17 เดือน
ขณะเดียวกันในจีน กิจกรรมการผลิตในเดือนมี.ค.67 ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน จากผลสำรวจภาคโรงงานอย่างเป็นทางการ ทั้งจีนและสหรัฐฯ คือ 2 ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก และข้อมูลเหล่านี้ ทำให้เกิดความคาดหมายเรื่องอุปสงค์ความต้องการใช้พลังงาน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากแนวโน้มอุปทานน้ำมันตึงตัว เนื่องจาก การปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส และการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในรัสเซีย
#น้ำมันโลก
#ภาคการผลิตสหรัฐจีน
แฟ้มภาพ