ชงครม.หาแนวทางใหม่อุ้มดีเซล หลังหนี้กองทุนน้ำมันใกล้ทะลุแสนล้าน

29 มีนาคม 2567, 11:14น.


          กระทรวงพลังงาน เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)หาแนวทางช่วยเหลือราคาดีเซล วอนประชาชนเข้าใจ หลังหนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงใกล้ทะลุแสนล้าน



          กระทรวงพลังงาน เตรียมเสนอ ครม. ของบกลางหรือลดภาษีสรรพสามิต ซึ่งหากไม่มีงบช่วยเหลือ จำเป็นต้องปรับลดอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซล แต่จะปรับลดแบบขั้นบันไดให้กระทบประชาชนให้น้อยที่สุด วอนประชาชนเข้าใจสถานการณ์กองทุนน้ำมันที่หนี้ใกล้ทะลุแสนล้าน



          นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงพลังงาน ได้ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 30 บาทตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 เป็นต้นมา ทำให้ปัจจุบัน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลเป็นหนี้ใกล้ 1 แสนบาทแล้ว ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีภาระหนี้มากเกินไป และเป็นการรักษาสภาพคล่องและความเชื่อมั่นของกองทุนฯ กระทรวงพลังงานจะนำเรื่องเข้าหารือใน ครม. เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ ประชาชนไปพร้อมกับการลดภาระหนี้ของกองทุนฯ แต่หากไม่มีงบประมาณจากส่วนอื่นเข้ามาช่วย เช่น งบกลาง หรือ การลดอัตราภาษีสรรพสามิต เบื้องต้น คาดว่า กองทุนฯ จะต้องปรับลดอัตราการชดเชยราคาน้ำมันลง 1-2 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น แต่เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชนมากเกินไป จึงจะมีการปรับลดการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลแบบขั้นบันได





          ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน จะเห็นได้ว่า ได้มีการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นต้นทุนของสินค้าและบริการ จึงได้มีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ที่ 30 บาทต่อลิตรมาอย่างต่อเนื่อง และบางช่วงราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงเคยสูงถึง 45 บาทต่อลิตร แต่เนื่องจากปัญหาราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนในระดับสูง ทั้งจากภาวะสงครามที่มีความยืดเยื้อ และจากการลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก กระทรวงพลังงาน จึงมีมาตรการช่วยเหลือผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ ณ วันที่ 24 มีนาคม 2567 สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบกว่า 98,000 ล้านบาท ขณะนี้ กระทรวงพลังงานเตรียมนำเรื่องเข้าหารือใน ครม. เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชน อาจจะเป็นการของบกลาง หรือ ขอความร่วมมือจากกระทรวงการคลังในการลดอัตราภาษีสรรพสามิต ซึ่งหากไม่มีงบประมาณเข้ามาช่วยเหลือ กองทุนฯ จำเป็นต้องปรับลดอัตราการชดเชยลง 1-2 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น แต่เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด จะมีการปรับลดอัตราการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลแบบขั้นบันได ปัจจุบันมีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 4.17 บาทต่อลิตร คิดเป็นจำนวนเงินที่กองทุนฯ ต้องจ่ายประมาณ 8,700 ล้านบาทต่อเดือน จึงขอให้ประชาชนเข้าใจในสถานการณ์ ณ เวลานี้ด้วย



           ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) วันที่ 27 มีนาคม 2567 เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเกิน 30 บาทต่อลิตรได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป โดยการดำเนินการปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ในกลุ่มน้ำมันดีเซล กบน. จะพิจารณาถึงข้อมูลต่างๆ ตามความเหมาะสมของช่วงเวลา เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและการบริหารจัดการของผู้ค้าน้ำมันมากจนเกินไป ทั้งนี้ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน 31 มีนาคม-1 เมษายน 2567 ยังไม่มีการดำเนินการอย่างแน่นอน



          มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 เห็นชอบตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 ซึ่งกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังร่วมกันบริหารจัดการราคาขายปลีก โดยใช้กลไกของภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกยังคงตัวอยู่ระดับสูง 104.03 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เฉลี่ยวันที่ 1-20 มี.ค.67)



          ด้วยเหตุนี้ กบน. จึงเห็นควรมีการพิจารณาปรับอัตราเงินกองทุนฯ ประเภทน้ำมันดีเซล เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลภายในประเทศสอดคล้องกับราคาตลาดโลกมากขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป โดยจะนำข้อมูลต่างๆ ที่มีผลต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมาพิจารณาร่วมกับแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2563-2567 ทุกครั้งที่มีการปรับอัตราเงินกองทุนฯ ในประเภทน้ำมันดีเซล ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้จะเป็นการช่วยให้สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวดีขึ้น เพื่อสามารถใช้กองทุนฯ เป็นเครื่องมือรองรับกับสถานการณ์วิกฤตราคาน้ำมันที่ผันผวนอย่างต่อเนื่อง



 



 



 



 



 



#กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง



#น้ำมันดีเซล



 



 

ข่าวทั้งหมด

X