หลังซีเอ็นเอ็น เปิดเผยรายงานเชิงสอบสวนระบุว่า เด็กหนุ่มชาวเมียนมา 2 คน คือ นายโฟ เตย์ (Phoe Tay) อายุ 21 ปีและนายธาร์ ฮเทือง(Thar Htaung) อายุ 20 ปี ถูกทำร้าย มีเลือดตามร่างกาย และข้อเท้าของพวกเขาถูกล่ามด้วยเครื่องพันธนาการ เช่น ขื่อ-คาที่ทำจากไม้ ทำให้ขยับร่างกายลำบาก โดยผู้ควบคุมได้ปฏิบัติต่อเด็กหนุ่มทั้งสองคนเสมือนไม่ใช่มนุษย์ มัดมือมัดเท้าด้วยโซ่ตรวนและลากพวกเขา ต่อหน้าชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่มุงดูเหตุการณ์
ด้านเว็บไซต์ข่าวโกลบอล นิวไลท์ ออฟ เมียนมา กระบอกเสียงของรัฐบาลเมียนมา รายงานเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2567 ว่า กองทัพเมียนมาปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุสังหารเด็กหนุ่มทั้งสองคนในเมืองมย้าวอู้ คินยัน (Myauk Khin Yan) พร้อมตำหนิสื่อที่ประสงค์ร้าย เสนอข่าวบิดเบือน หวังให้คนทั่วโลกเข้าใจผิดต่อภาพลักษณ์ของกองทัพเมียนมา
นายโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ ประจำสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) กล่าวถึงสถานการณ์ในเมียนมาว่า เสมือนฝันร้ายที่ไม่เคยจบสิ้น โดยทหารเมียนมาทำร้ายประชาชนโดยไม่คำนึงถึงมนุษยธรรม
ขณะเดียวกัน ซีเอ็นเอ็นระบุว่า ได้ขอติดต่อสัมภาษณ์โฆษกของกองทัพเมียนมาในเรื่องนี้ และการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามฝ่ายพลเรือนที่ต่อต้านรัฐบาล แต่ไม่ได้รับคำตอบ ที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาเปิดเผยว่า กองทัพไม่เคยทำร้ายประชาชน พร้อมกล่าวหาฝ่ายต่อต้านว่าใช้ความรุนแรง
ก่อนหน้านี้ ทีมข่าวซีเอ็นเอ็นอ้างว่า ได้ทำรายงานเรื่องนี้ พร้อมทั้งตรวจสอบ ระยะเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมสอบถามพยานกว่าสิบคน รวมถึงชาวบ้านและนักรบของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเมียนมา สมาชิกในครอบครัวของผู้เสียชีวิตและนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญเรื่องการตรวจสอบวิดีโอและภาพถ่ายในการจัดทำรายงานเรื่องนี้ โดยรัฐบาลเมียนมาปฏิเสธต่อสาธารณะมาหลายครั้งว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
#กองทัพเมียนมา
#ปราบปรามผู้ประท้วง