หลังจากเกิดเหตุเรือสินค้าของบริษัทซินเนอร์ยี มารีน กรุ๊ป ชื่อ ต้าลี่ ของสิงคโปร์ ชนตอม่อสะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ ถล่มลงมา ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐฯ เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.27 น.วันอังคาร (26 มี.ค.67) ยังไม่ทราบสาเหตุที่เรือชนสะพาน
นายเวส มัวร์ ผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์ ประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อจัดสรรทรัพยากรของรัฐบาลกลาง มาช่วยจัดการกับเหตุฉุกเฉิน พร้อมทั้งขอบคุณ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมทั้งภาคเอกชน และประชาชนที่ช่วยสนับสนุนเรื่องอาหาร เรือสินค้าลำนี้ แล่นออกจากท่าเรือพอร์ท บรีซ รัฐฟิลาเดลเฟีย มุ่งหน้าไปที่กรุงโคลัมโบ ศรีลังกา ก่อนที่เรือจะชนสะพาน ได้ส่งสัญญาณ เมย์เดย์ แจ้งเหตุฉุกเฉินไปยังเจ้าหน้าที่ว่า เรือสูญเสียพลังงาน ก่อนที่เรือจะชนตอม่อสะพาน ซึ่งการเตือนนี้ช่วยชีวิตคนได้จำนวนมาก เนื่องจาก เจ้าหน้าที่สามารถหยุดการจราจร ไม่ให้รถขึ้นไปบนสะพานมากกว่าเดิม
เอบีซีนิวส์ รายงานว่า ขณะที่เรือกำลังออกจากท่าเรือ ลูกเรือบนเรือแจ้งเจ้าหน้าที่ของรัฐแมรีแลนด์ว่าไม่สามารถควบคุมเรือได้
ผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์ กล่าวว่า ลูกเรือของเรือลำนี้ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเรือลำนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ก่อนเกิดอุบัติเหตุ แสงไฟบนเรือกะพริบและมีกลุ่มควันสีเข้มลอยพวยพุ่งออกมาจากตัวเรือ ก่อนที่จะเลี้ยวไปทางเสาสะพานไม่นานก่อนที่จะเกิดการชน
ขณะที่ เจนนิเฟอร์ โฮเมนดี ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ ระบุว่า เร็วเกินไปที่จะบอกว่ารายงานเหตุไฟฟ้าดับบนเรือนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เนื่องจากอยู่ระหว่างการสืบสวน รวมถึงการตรวจโครงสร้างของสะพาน ซึ่งเครื่องบันทึกการเดินทางจะสามารถให้ข้อมูลได้เพิ่มขึ้น
ริชาร์ด วอร์ลีย์ ผู้บัญชาการตำรวจบัลติมอร์ กล่าวว่า ไม่มีข้อมูลชี้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นการก่อการร้าย
นายแบรนดอน เอ็ม.สก็อตต์ นายกเทศมนตรีเมืองบัลติมอร์ กล่าวว่า การค้นหาผู้ที่สูญหายเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ เร่งดำเนินการ ด้วยการใช้เทคโนโลยีโซนาร์และอินฟราเรด รวมถึงโดรน
นายพอล วีเดเฟลด์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของรัฐแมรีแลนด์ เปิดเผย สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยในเมืองบัลติมอร์ ระบุว่า ในช่วงเกิดเหตุมีคนงานก่อสร้างอยู่บนสะพาน 8 คน สามารถช่วยเหลือ 2 คนที่ตกลงไปในน้ำ 1 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล อีก 1 คนอาการปลอดภัย ขณะนี้ กำลังเร่งค้นหาอีก 6 คน พร้อมกับเร่งตรวจสอบจำนวนรถยนต์ที่อยู่บนสะพาน
เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง บอกกับสำนักข่าวต่างประเทศว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัย ทำงานท่ามกลางความไม่ปลอดภัย เนื่องจาก มีวัตถุห้อยลงมาจากโครงสร้าง สภาพอากาศที่เย็นจัด กระแสน้ำ และทัศนวิสัยที่จำกัด
สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) ห้ามไม่ให้เครื่องบินบินเหนือซากสะพาน เนื่องจาก ท่าเรือบัลติมอร์ อยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาติบัลติมอร์/วอชิงตัน (BWI) ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในภูมิภาค
สะพานนี้เป็นสะพานทางบกขนาด 4 ช่องจราจร ยาว 3 กม.(หรือ 1.6 ไมล์) สำหรับใช้ข้ามแม่น้ำ ปาแทบสโก (Patapsco River) และเป็นทางแล่นไปยังท่าเรือของเมืองมัลติมอร์ และเชื่อมโยงกับถนนระหว่างรัฐหมายเลข 695
จากเหตุการณ์นี้ กระทบต่อการขนส่งสินค้า เรือขนส่งต่างๆ เปลี่ยนเส้นทางเดินเรือไปทางท่าเรือเวอร์จิเนียร์
ท่าเรือบัลติมอร์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับเก้าของสหรัฐฯสำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ท่าเรือแห่งนี้รองรับปริมาณงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 52.3 ล้านตัน มูลค่า 80.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 ตามข้อมูลของรัฐบาลของรัฐแมรีแลนด์ ท่าเรือแห่งนี้รองรับงานโดยตรง 15,330 ตำแหน่ง และงาน 139,180 ตำแหน่งในบริการที่เกี่ยวข้อง
ท่าเรือบัลติมอร์ ยังเป็นท่าเรือชั้นนำของสหรัฐฯ มีการขนส่งเครื่องจักรการเกษตร การก่อสร้าง รวมถึงการนำเข้าน้ำตาลและยิปซั่ม และเป็นท่าเรือแห่งที่สองในประเทศสำหรับส่งออกถ่านหิน
#เรือชนสะพาน
#บัลติมอร์
#สหรัฐฯ
CR:CNN