เหตุคนร้ายกราดยิงผู้ชมคอนเสิร์ตและขว้างระเบิดเพลิงใส่เวทีคอนเสิร์ต ที่ โครคัสซิตี ฮอลล์ (Crocus City Hall) ในเมืองคราสโนกอร์สค์ ทางตอนเหนือของกรุงมอสโกเมื่อ 20.00น.คืนวันศุกร์(22 มี.ค.67) มีผู้เสียชีวิต 133 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คน ซึ่งกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ของอิรักและซีเรียอ้างอยู่เบื้องหลัง ทำให้ไฟไหม้เวทีคอนเสิร์ตและอาคารใกล้เคียง ช่วงเกิดเหตุมีผู้ชมถึง 6,200 คน
สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียและบีบีซีรายงานอ้างคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซีย (Russia's Investigative Committee)ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย แถลงทางโทรทัศน์ของรัสเซียเมื่อคืนนี้ ประณามเหตุโจมตีงานแสดงคอนเสิร์ต เป็นการก่อการร้ายอย่างป่าเถื่อน เป็นเหตุโจมตีที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดในรัสเซียในรอบเกือบ 20 ปี พร้อมย้ำรายงานจากหน่วยข่าวกรองรัสเซียว่า ตำรวจจับกุมคนร้ายจำนวน 11 คน ในจำนวนนี้ รวมถึง 4 คน ซึ่งถูกจับที่แคว้นเบรียนสค์ ทางตะวันตกของรัสเซีย ขณะหลบหนีมุ่งหน้ายังชายแดนยูเครน ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ควบคุมตัวคนร้ายทั้งหมดมาสอบสวนในกรุงมอสโก
คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซีย กล่าวว่า การสอบสวนยังคงดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของรัสเซียคาดว่า พนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องต่อศาลในกรุงมอสโกในอีก 1-2 วันข้างหน้า เพื่อขอขยายระยะเวลาควบคุมคนร้ายระหว่างสอบสวน สำหรับคดีนี้ ถ้าศาลตัดสินว่าคนร้ายทำความผิดทางอาญา จะถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน แสดงความรู้สึกประหลาดใจ กรณีประธานาธิบดีปูติน แสดงความเห็นต่อสาธารณชน กล่าวหายูเครนว่า มีส่วนสนับสนุนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีการแสดงคอนเสิร์ตโครคัสซิตี ฮอลล์ แทนที่จะรอให้พนักงานสอบสวนของรัสเซียสอบสวน เพื่อให้เกิดชัดเจนเสียก่อน พร้อมปฏิเสธว่า ยูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีดังกล่าว
ส่วนท่าทีของสหรัฐฯ นางคารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯประณามเหตุโจมตีลานแสดงคอนเสิร์ตในรัสเซีย แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ และกล่าวถึงกลุ่มไอเอสว่า เป็นศัตรูร่วมกัน ซึ่งทั้งสหรัฐฯและรัสเซียจะต้องร่วมมือปราบปรามให้หมดไปจากทุกแห่งทั่วโลก พร้อมทั้งกล่าวปกป้องยูเครนว่าไม่ส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯเตือนรัสเซียเมื่อต้นเดือนนี้ว่า อาจเกิดเหตุโจมตี จุดที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมากเช่น งานแสดงคอนเสิร์ตในรัสเซีย แต่รัสเซียปฏิเสธคำเตือนของสหรัฐฯในช่วงนั้น โดยมองว่า เป็นการโฆษณาชวนเชื่อและเป็นความพยายามของสหรัฐฯที่จะเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย
#รัสเซียจับคนร้าย
#เหตุโจมตีคอนเสิร์ต