กู้ภัยอินโดฯช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮิงญา ใกล้ชายฝั่งอาเจะห์

          สำนักงานค้นหาและกู้ภัยของอินโดนีเซีย รายงานการให้ความช่วยเหลือชาวโรฮิงญา 69 คนใกล้ชายฝั่งจังหวัดอาเจะห์ โดยมีอยู่ 59 คนที่ได้รับความช่วยเหลือจากเรือค้นหาและกู้ภัย ส่วนอีก 10 คนเรือประมงท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือ

          ชาวโรฮิงญาเหล่านี้ ประกอบไปด้วย เด็ก 9 คน ผู้หญิง 18 คน และผู้ชาย 42 คน ทั้งหมดมีอาการถูกแดดเผาและขาดน้ำ ซึ่งบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าทั้งหมดออกเดินทางมาจากต้นทางประมาณ 1 เดือนแล้ว

          ผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าพวกเขาพบเห็นเรือ 2 ลำ เข้ามาใกล้ชายฝั่ง แต่เมื่อเรือประมงท้องถิ่นพยายามให้ความช่วยเหลือ ผู้อพยพก็พยายามแย่งชิงกันลงจากเรือลำเดิมที่ไม่แข็งแรงเพื่อจะขึ้นเรือประมง ทำให้เรือผู้อพยพลำหนึ่งจมลง มีผู้สูญหายประมาณ 80 คน

          สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ชาวโรฮิงญาเหล่านี้ เดินทางมาจากค่ายผู้ลี้ภัยกูตูปาลองในเมืองคอกซ์บาซาร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ ซึ่งมีชาวโรฮิงญาราว 1 ล้านคนพักอาศัยอยู่ นับตั้งแต่กองทัพเมียนมามีปฏิบัติการกวาดล้างและผลักดันออกจากประเทศในเดือนสิงหาคม 2560 พวกเขาออกเดินทางมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว เรือเริ่มมีความเสียหายและจมลงในช่วง 3 วันก่อนที่เรือประมงจะมาพบ และแจ้งขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยอาเจะห์ เมื่อหน่วยกู้ภัยเดินทางมาถึงก็พบว่า ผู้อพยพหลายคนเกาะตัวเรือที่มีสภาพทรุดโทรม “ผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กที่อ่อนแอและเปียกโชกจากฝนที่ตกในเวลากลางคืน ร้องไห้ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพาพวกเขาขึ้นเรือบดยางไปยังเรือกู้ภัย

          ชาวโรฮิงญาจำนวนมากลักลอบเดินทางทางทะเลไปยังมาเลเซียหรืออินโดนีเซีย เพื่อหลบหนีสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมาและความแออัดในค่ายผู้ลี้ภัยที่บังคลาเทศ แม้ว่าจะเผชิญกับการต้อนรับที่ไม่เป็นมิตรมากขึ้นในทั้ง 2 ประเทศปลายทางก็ตาม เมื่อปีที่แล้ว (2566) มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 569 รายขณะเดินทางข้ามอ่าวเบงกอลและทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557 ตามข้อมูลของ UNHCR หน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ซึ่งนาย แมทธิว ซอลต์มาร์ช โฆษก UNHCR กล่าวว่างทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอลเป็นหนึ่งในผืนน้ำที่อันตรายที่สุดในโลก

...

#โรฮิงญา

#อินโดนีเซีย

#บังกลาเทศ