การทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง 2 นายตำรวจระดับนายพล พล.ต.อ.วินัย ทองสอง กรรมการและเลขานุการ ในคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงแนวทางสอบสวน ยืนยันว่า จะทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีกลั่นแกล้ง หรือปกปิดความผิดให้ใคร พร้อมขอร้องข้าราชการตำรวจ และประชาชน หากมีเบาะแสหรือหลักฐานในเรื่องที่กำลังตรวจสอบ ขอให้นำหลักฐานมามอบให้คณะกรรมการ
การตั้งคณะกรรมการฯ ไม่ใช่การซื้อเวลา แต่เป็นการหาคนกลางมาทำหน้าที่ให้ได้ข้อสรุป และชี้ชัดว่าอะไรเป็นอะไร
พล.ต.อ.วินัย กล่าวต่อว่า คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นครั้งนี้มีลักษณะการทำงานเหมือนชุดกรรมการพิเศษที่นำโดย ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ สอบเรื่องเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเกี่ยวกับคดีบอส อยู่วิทยา โดยสุดท้ายมีผลการตรวจสอบสามารถนำไปสู่การดำเนินคดีผู้กระทำผิดได้
“พวกผมทั้ง 3 คนจะมาทำความจริงให้ปรากฏ ไม่เข้าข้างฝ่ายใด ไม่มีการตั้งธง ไม่มีมวยล้ม ไม่มีเกี้ยเซียะ ใครทำผิดต้องได้รับผิด ใครทำถูกต้องได้รับถูก”
โดยขณะนี้เริ่มรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งตามคำสั่งให้ระยะเวลาตรวจสอบ 60 วัน ยืนยันว่าคณะกรรมการจะทำงานอย่างรวดเร็วที่สุด และรายงานผลนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ ๆ แต่หากมีความจำเป็นก็จะขอขยายระยะเวลา
ส่วนสำนวนการสอบสวนนั้นแม้ว่าคณะกรรมการฯ ไม่สามารถลงไปตรวจสอบ หรือขอดูเอกสารอื่นๆ แต่ยังมีวิธีการให้ได้มาถึงข้อเท็จจริง เชื่อว่าจะสามารถทำความจริงให้ปรากฏได้ ว่าใครกระทำผิดอย่างไร
หากพบการกระทำผิดและสรุปเสนอนายกรัฐมนตรี ก็จะนำไปสู่การดำเนินคดี เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ มีบุคคลที่เกี่ยวข้องเยอะ กำลังขอแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม และรายงานผลเป็นระยะ ๆ พยายามทำให้เสร็จภายใน 60 วัน
ส่วนของคดีความที่อยู่ในขั้นของ ป.ป.ช หรือคดีทางอาญาก็ดำเนินควบคู่กันไป ส่วนตัวคาดว่า ผลสอบของกรรมการชุดนี้น่าจะกลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แม้ว่าพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาแถลงว่าจะมีการปรองดองยุติข้อขัดแย้ง จะมีผลต่อการสอบหรือไม่ โดยพล.ต.อ.วินัย ยืนยันว่าไม่มีผลใดๆและไม่มีมวยล้มต้มคนดูเเน่นอน
สำหรับผลการตรวจสอบ กรณีการนำกำลังเข้าค้นบ้านของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นไปโดยชอบหรือไม่ ซึ่งใช้กรรมการชุดเดียวกันนี้ พล.ต.อ.วินัย บอกว่า ได้เสนอนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่าการใช้กำลังคน การใช้วิธีควรระมัดระวัง แต่ทั้งนี้การเข้าค้นบ้านของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นไปตามกฎหมาย
สำหรับคณะกรรมการฯ ดังกล่าวประกอบด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการ, นายชาติพงษ์ จีระพันธุ กรรมการ และ พล.ต.อ.วินัย กรรมการและเลขานุการ
#สอบข้อเท็จจริง
#ปมตำรวจขัดแย้ง