รวบ'ไฮโซโจ' เจ้าของแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดังข่มขืนและบุกรุก เหยื่อสาวคิดสั้นกระโดดตึก

21 มีนาคม 2567, 11:46น.


          เจ้าหน้าที่สืบนครบาล ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายวชิรวิชญ์ หรือโจ เจ้าของแบรด์ขนมกล้วยชื่อดัง อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.277/2567 ลงวันที่ 20 มี.ค. 67 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน” จับกุมตัวได้ที่ คอนโดหรูย่าน ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จ.กรุงเทพ



          พฤติการณ์กล่าวคือ นางสาวเอ (นามสมมติ)กับร่างไร้สติในห้อง ICU ที่อาการครึ่งเป็นครึ่งตาย จากการตัดสินใจกระโดดตึกจากชั้น 4 เพื่อหวังจะลาโลกใบนี้ หลังจากที่ต้องทุกข์ทรมานดำดิ่งอยู่กับภาพจำที่สุดเลวร้ายจากการถูก “ไฮโซโจ” ย่ำยีพร้อมคำพูดที่ยังตามหลอกหลอนเธอว่า “กูจะ ย จนมึงตาย” ไม่สามารถสลัดออกจากจิตใจของเธอได้กว่า 4 วัน เรื่องราวที่สุดแสนรันทดหดหู่เกิดขึ้นที่ย่านสีลม จ.กรุงเทพฯ จนทำให้ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความที่สน.ทุ่งมหาเมฆ ก่อนที่จะก่อเหตุกระโดดตึก 4 ชั้น อาการสาหัสเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 67



           พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช. ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนคดีนี้ทันที ซึ่งต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ออกหมายจับไฮโซโจ หรือ นายวชิรวิชญ์ นักธุรกิจเจ้าของแบรด์ขนมกล้วยชื่อดัง และเป็นตระกูลของนักธุรกิจชื่อดัง หลังลงพื้นที่สืบสวน พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ได้สืบทราบว่าไฮโซโจนี้พักอาศัยอยู่กับแฟนสาวในคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านเพลินจิต จึงนำกำลังไปซุ่มรอจับกุม และสามารถจับกุมได้ที่ ล็อบบี้ของคอนโด ขณะกลับมาจากทานข้าวเที่ยงโดยขณะจับกุมไฮโซโจมีท่าทีขัดขืนเจ้าหน้าที่จึงเกิดการปะทะคารมกันเล็กน้อยก่อนจะยินยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการจับกุมตัว



       ในชั้นจับกุม นายวชิรวิชญ์ฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองเป็นเจ้าของธุรกิจแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดังที่ส่งออกขายทั่วโลก และยังเป็นทายาทนักธุรกิจ จบการศึกษาจากต่างประเทศ ส่วนทางคดียืนยันไม่ได้ข่มขืนเพราะผู้เสียหายยอมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเอง ส่วนแฟนสาวที่คบอยู่ปัจจุบันนี้ไม่ทราบว่าตนเองมีโลกใบที่ 3 พึ่งจะมาทราบวันนี้”หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย



          พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะมีความขัดแย้งกับคำให้การและพยานหลักฐานหลายประเด็น ต้องชื่นชมที่พนักงานสอบสวนหญิงสามารถเกลี้ยกล่อมและบันทึกปากคำหญิงผู้เสียหายไว้ได้ตั้งแต่แรก ซึ่งนี้คือพยานหลักฐานที่สำคัญมาก เพราะในตอนนี้ตัวของผู้เสียหายที่ตกจากตึกชั้น 4 นั้นสภาพร่างกายยังไม่สามารถมาให้การหรือต่อสู้ใดๆทางคดีได้ ซึ่งหลังจากนี้เราจะขยายผลให้ถึงที่สุดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากผู้ใดมีเบาะแส โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที



#สืบนครบาล



#ล่วงละเมิดทางเพศ

ข่าวทั้งหมด

X