ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายจีเอส มาลิก ตำรวจระดับสูงในเมืองอาห์เมดาบัด เมืองเอกของรัฐคุชราตทางภาคตะวันตกของอินเดียเปิดเผยว่า ตำรวจจับกุมแกนนำนักศึกษาฮินดูหัวรุนแรง 2 คน เพื่อสอบสวน หลังยกพวกทำร้ายนักศึกษามุสลิมชาวต่างชาติ 15 คน รวมถึงนักศึกษาจากอัฟกานิสถาน ศรีลังกา และทาจิกิสถาน ขณะทำพิธีสวดมนต์ในรั้วมหาวิทยาลัยในช่วงเดือนรอมฎอน เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว มีนักศึกษาต่างชาติบาดเจ็บ 2 คน ทรัพย์สินอื่นๆเสียหายเช่น รถจักรยาน เครื่องแลปท็อป และเครื่องสมาร์ทโฟน
ในตอนแรก นักศึกษาชาวฮินดู 20-25 คนบุกเข้ามาในบริเวณที่นักศึกษามุสลิมต่างชาติทำพิธีสวดมนต์และถามว่า เหตุใดพวกเขาจึงสวดมนต์ภายในรั้วมหาวิทยาลัย แทนที่จะออกไปสวดมนต์ที่มัสยิดต่างๆ (ข้างนอกรั้วมหาวิทยาลัย) ทำให้คนทั้งสองกลุ่มโต้เถียง และด่ากัน จากนั้น นักศึกษาฮินดูได้แยกย้ายออกไปจากบริเวณที่นักศึกษามุสลิมต่างชาติสวดมนต์ แต่สักพักใหญ่ๆต่อมา พวกเขากลับมาพร้อมชายฉกรรจ์อีก 200-250 คน ก่อนยกพวกทำร้ายนักศึกษาต่างชาติ มีการขว้างก้อนหินใส่กัน นอกจากนี้ มีบุคคลภายนอก ซึ่งไม่ใช่นักศึกษา บุกเข้าทำลายสิ่งของเครื่องใช้ในหอพักศึกษาต่างชาติด้วย
นางนีร์จา เอ คุปตะ รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัย ยืนยัน รายงานเรื่องเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างนักศึกษา 2 กลุ่ม ซึ่งมีนักศึกษาต่างชาติบาดเจ็บจริง ระบุว่า ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เช่น กล้องซีวีทีวี เพื่อสอบสวนปมที่ทำให้นักศึกษาทั้งสองกลุ่มยกพวกทำร้ายกัน ขณะที่ นายรันธีร์ ไจสวาล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย โพสต์ข้อความทาง X ว่า รัฐบาลท้องถิ่นของรัฐคุชราตจะดำเนินคดีอาญากับคนร้ายตามกฎหมาย
นับเป็นเหตุรุนแรงในชุมชนครั้งล่าสุดในอินเดีย ซึ่งมีประชากร 1,400 ล้านคน ที่ผ่านมา มีความตึงเครียดทางศาสนาค่อนข้างมากในยุคที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี หัวหน้าพรรคชาตินิยมฮินดู ภารติยะ ชนะตะ หรือบีเจพี เข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่ปี 2557 อีกทั้งเป็นสัญญาณที่แสดงว่า ความตึงเครียดทางศาสนายังคงคุกรุ่นอยู่ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในอินเดียในวันที่ 19 เม.ย.นี้
#เหตุรุนแรงอินเดีย