ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งของอินเดีย นำโดยนายราจีฟ กุมาร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงข่าวในกรุงนิวเดลี อินเดียว่า อินเดียจะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป แบ่งเป็น 7 ระยะไปจนกว่าจะครบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ใช้เวลาเลือกตั้ง 6 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.2567 จนถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2567 แข่งขันที่นั่งสส. 543 ที่นั่งจากทั้งหมด 545 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรหรือโลกสภา ส่วนที่นั่งสส.อีก 2 ที่นั่งจะได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีของอินเดีย
มีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งกับคณะกรรมการการเลือกตั้งอินเดีย 968.8 ล้านคนจากประชากร 1,400 ล้านคนของอินเดีย เพิ่มร้อยละ 6 จากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วในปี 2562 ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เลือกตั้งของอินเดียจะทำการนับคะแนนทั้งหมดจาก 28 รัฐและ 8 ดินแดนของอินเดียในวันที่ 4 มิ.ย.2567 ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า พรรคภารติยะชนะตะ(BJP)ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียจะชนะสมัยที่ 3 บริหารประเทศต่อไปอีก 5 ปี
นายโมดีตั้งเป้าจะผลักดันอินเดียให้กลายเป็นมหาอำนาจแห่งศตวรรษที่ 21 พร้อมทำให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอินเดียเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า นายโมดีรวบศูนย์อำนาจการปกครองมากอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน นับแต่ยุคของอดีตนายกรัฐมนตรีอินทิรา คานธี ซึ่งปกครองอินเดียระหว่างปี 2460-2527 ชนกลุ่มน้อยถูกกดขี่ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ภายใต้นโยบายชาตินิยมฮินดูของพรรคBJPของนายโมดี ขณะที่กลุ่มผู้เห็นต่างถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย
สำหรับพรรคแกนนำฝ่ายค้านคือ พรรคอินเดียน เนชั่นแนล คองเกรส (Indian National Congress) ซึ่งชนะการเลือกตั้ง เข้ามาบริหารประเทศติดต่อกันมาหลายสิบปีตลอดระยะเวลา 77 ปีที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ ก่อนหน้านี้ พรรคแกนนำฝ่ายค้านได้จับมือกันเป็นพันธมิตรกับพรรคอื่นๆรวม 26 พรรคใช้ชื่อว่า พรรคแนวร่วมเพื่อการพัฒนาชาติอินเดีย(INDIA)ในปีที่แล้ว หวังโค่นล้มพรรคBJP ของนายโมดีในการเลือกตั้งทั่วไป 2024
#การเมืองอินเดีย
#เลือกตั้งอินเดีย