ทางการท้องถิ่นเมืองโอเดสซา ของยูเครน รายงานว่า รัสเซียโจมตีเขตพลเรือนของเมืองทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 รายและบาดเจ็บ 75 คน หลังจากที่มีการส่งโดรนและยิงขีปนาวุธโจมตีทุกวันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่การโจมตีในครั้งล่าสุดนี้ สร้างความสูญเสียมากที่สุด และประกาศให้วันนี้ (16 มีนาคม 67) เป็นวันไว้อาลัยในระดับท้องถิ่น รวมถึงขอให้ประชาชนบริจาคโลหิตที่ศูนย์การแพทย์ในพื้นที่ และประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนประกาศตอบโต้
ขีปนาวุธ Iskander-M จำนวน 2 ลูกถูกยิงมาจากคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียยึดครอง ทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน รวมถึงท่อส่งก๊าซและระบบไฟฟ้า โดยเมืองโอเดสซา เป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยูเครน ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีหลังจากที่รัสเซียยกเลิกข้อตกลงที่สหประชาชาติเป็นคนกลางในการเจรจาให้มีการขนส่งธัญพืชของยูเครนผ่านทะเลดำได้อย่างปลอดภัย
ส่วนที่ฟินแลนด์ซึ่งปิดจุดผ่านแดนทั้งหมดที่ติดต่อกับรัสเซียตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว เตรียมระงับการออกใบรับรองเป็นผู้ลี้ภัยจากรัสเซีย หลังจากที่พบว่ามีผู้ยื่นคำร้องเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ ทั้งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก สร้างความกังวลต่อประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ว่าจะมีชาวรัสเซียใช้สถานะการเป็นผู้ลี้ภัยเดินทางผ่านฟินแลนด์ไปยังประเทศอื่น ๆ ในกลุ่ม นายกรัฐมนตรี เพตเตรี ออร์โป กล่าวว่า ฟินแลนด์กำลังตกเป็นเป้าหมายของการอพยพย้ายถิ่น ที่ได้รับการสนับสนุนจากทางการรัสเซีย และกระทรวงกิจการภายในแนะนำให้มีการเตรียมพร้อมสำหรับแรงกดดันที่จะเกิดขึ้นตามมา หน่วยงานชายแดนฟินแลนด์ รายงานว่า ในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคมถึงธันวาคมปีที่แล้ว (2566) มีผู้ขอลี้ภัยมากกว่า 1,300 คนจากประเทศต่างๆ รวมถึงเยเมน โซมาเลีย และซีเรียที่เดินทางเข้ามาจากรัสเซีย จากที่เคยมีจำนวนเฉลี่ยเพียงวันละ 1 คน จนถึงในเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ (2567) พบว่ามีผู้คนหลายพันคนรออยู่ในฝั่งรัสเซียเพื่อเดินทางไปฟินแลนด์
เมื่อปีที่แล้ว ฟินแลนด์ละทิ้งจุดยืนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดทางทหารที่ยึดถือมายาวนาน และเข้าร่วมเป็นพันธมิตรของนาโตเพื่อตอบโต้การที่รัสเซียรุกรานยูเครน ทำให้รัสเซียไม่พอใจ และเมื่อต้นเดือนนี้ (มีนาคม) สวีเดนก็เป็นอีกประเทศเข้าร่วมเป็นพันธมิตรนาโต ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวสุนทรพจน์ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันพุธ (14 มีนาคม) ว่า การตัดสินใจของฟินแลนด์และสวีเดนในการเข้าร่วมพันธมิตรนาโต เป็นการกระทำที่ไม่มีความหมาย และรัสเซียจะส่งกำลังทหารไปยังชายแดนฟินแลนด์เพื่อตอบโต้ กับจะใช้มาตรการตอบโต้ทางการเมืองและการทหารเพื่อตอบโต้สวีเดน
ส่วนที่รัสเซีย ซึ่งมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีระหว่างวันที่ 15 ถึง 17 มีนาคม ทำเนียบเครมลินมีการเผยแพร่ภาพประธานาธิบดีปูติน ขณะใช้สิทธิ์เลือกตั้งผ่านทางออนไลน์ และการประชุมกับสภาความมั่นคงรัสเซีย เกี่ยวกับการที่กองทัพยูเครนเร่งโจมตีพื้นที่ชายแดนทางตะวันตก มีการยิงปืนใหญ่โจมตีและมีทหารยูเครนจำนวน 2,500 นาย พยายามข้ามแดนเข้ามาด้วยรถถัง ซึ่งประธานาธิบดีปูตินระบุว่าเป็นความพยายามรบกวนการเลือกตั้ง
ฝ่ายยูเครน เพิ่มเติมว่าเป็นการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธสัญชาติรัสเซียที่มีฐานปฏิบัติอยู่ในยูเครนและมีจุดยืนต่อต้านรัฐบาลรัสเซีย
การเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่า 114 ล้านคน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ผนวกดินแดนจากยูเครน ผู้มีสิทธิ์ 1 ใน 3 ใช้สิทธิ์ผ่านทางออนไลน์ ในวันแรกของการเลือกตั้ง มีผู้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งแล้วมากกว่าร้อยละ 35
สื่อในรัสเซีย รายงานว่ามีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นที่หน่วยเลือกตั้งหลายแห่ง โดยมีการเทสีใส่กล่องลงคะแนนในกรุงมอสโก แคว้นไครเมีย และเขตการปกครองคาราชาเยโว-ซีร์คัสเซีย กับมีเหตุปาระเบิดขวดที่หน่วยเลือกตั้งในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก กับมีผู้ที่พยายามวางเพลิงหน่วยเลือกตั้งในกรุงมอสโกและไซบีเรีย
..
#ยูเครน #รัสเซีย #โอเดสซา #ฟินแลนด์ #เลือกตั้งประธานาธิบดี