เรือ Open Arms ของสเปนเดินทางออกจากท่าเรือในลาร์นากา ไซปรัสเมื่อวันอังคาร (12 มีนาคม 67) พร้อมอาหาร 200 ตัน เดินทางถึงฉนวนกาซาแล้ว และเริ่มการลำเลียงสิ่งของต่างๆ ลงจากเรือไปยังรถบรรทุกที่รออยู่บนท่าเทียบเรือที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งยังเป็นการทดสอบการส่งมอบความช่วยเหลือทางทะเลว่ามีประสิทธิผลหรือไม่ หลังจากที่การส่งมอบทางอากาศและทางบกประสบความยากลำบาก
การส่งมอบความช่วยเหลือครั้งนี้ กลุ่ม World Central Kitchen (WCK) เป็นผู้จัดหาอาหาร โดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ในการขนส่งสินค้าทางเรือซึ่งประกอบด้วยข้าว แป้ง พืชตระกูลถั่ว ผักกระป๋อง และโปรตีนกระป๋อง แต่ฉนวนกาซาไม่มีท่าเรือ ทีมงานของ WCK จึงสร้างท่าเทียบเรือจากแนวชายฝั่ง นายโฆเซ่ อันเดรส ผู้ก่อตั้ง WCK โพสต์ข้อความลงบน X ว่าความช่วยเหลือทั้งหมดจะถูกลำเลียงลงจากเรือไปยังรถบรรทุก 12 คัน และคาดว่าการขนส่งรอบต่อไปจะมาถึงโดยเร็ว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายส่งความช่วยเหลือปริมาณ "หลายพันตันต่อสัปดาห์"
ส่วนในแถลงการณ์ของฝ่ายอิสราเอล ระบุว่า เรือ Open Arms และสินค้าได้รับการตรวจสอบในไซปรัส โดยมีการส่งกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) ไปประจำการที่แนวชายฝั่งในระหว่างที่มีการขนส่ง
สหรัฐฯ กำลังวางแผนที่จะสร้างท่าเรือลอยน้ำของตนเองนอกชายฝั่งเพื่อส่งเสริมการขนส่งทางทะเล ซึ่งทำเนียบขาวสหรัฐฯ ตั้งเป้าหมายว่า จะสามารถส่งมอบอาหารได้วันละ 2 ล้านชุด แต่ก็ยังมีคำถามเกี่ยวกับแผนการทำงานเพื่อแจกจ่ายความช่วยเหลือ
วิธีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการส่งความช่วยเหลือเข้าไปในฉนวนกาซาคือทางถนน แต่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดและการตรวจสอบของอิสราเอล นอกจากนี้โครงการอาหารโลกต้องระงับการส่งมอบเป็นการชั่วคราวเนื่องจากเหตุปล้นรถบรรเทาทุกข์ ทั้งมีรายงานทหารอิสราเอลยิงใส่ผู้คนที่กำลังรอรถแจกอาหาร ขณะที่การส่งความช่วยเหลือจากทางอากาศกลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการที่ร่มชูชีพไม่กาง
กระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาส รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 149 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากการโจมตีทางอากาศและการสู้รบในเมืองข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ขณะที่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า เขาได้อนุมัติแผนปฏิบัติการของกองทัพในเมืองราฟาห์ ซึ่งรองรับผู้พลัดถิ่นจำนวนมากที่สุดในฉนวนกาซา ยอมรับว่ามีแรงกดดันจากนานาชาติที่ไม่ต้องการให้อิสราเอลเข้าไปในราฟาห์เพื่อทำภารกิจให้เสร็จสิ้น แต่อิสราเอลจะเข้าไปในราฟาห์และนำชัยชนะที่สมบูรณ์มาสู่ประชาชน ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เตือนว่า พวกเขายังไม่ได้รับทราบแผนปฏิบัติการ และการโจมตีราฟาห์อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง หากไม่มีการยกระดับให้การคุ้มครองพลเรือนมีความสำคัญเป็นอันดับแรก นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่สนับสนุนแผนปฏิบัติการใดๆ หากไม่มีการอพยพชาวกาซามากกว่าหนึ่งล้านคนไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัยก่อน
ส่วนการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา ที่กาตาร์ยังดำเนินต่อไป โดยอิสราเอลปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงล่าสุดของกลุ่มฮามาส ที่ต้องการให้มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันที่คาดว่ามีจำนวนประมาณ 130 คน ก่อนการหยุดยิง 6 สัปดาห์ นำไปสู่การถอนกำลังทหารของอิสราเอลออกจากฉนวนกาซาอย่างสมบูรณ์ และการหยุดยิงถาวร
..
#ฉนวนกาซา #อิสราเอล #ปาเลสไตน์ #หยุดยิงถาวร