รัสเซียใช้ระเบิดนำวิถีรุ่นใหม่รบทางภาคตะวันออกยูเครน ทหาร-บ้านเรือนยูเครนเสียหายหนัก

10 มีนาคม 2567, 14:45น.


          ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนายจัสติน บรองค์ นักวิจัยด้านสงครามจากสถาบัน รอยัลยูไนเต็ดเซอร์วิส (Royal United Services Institute)ของอังกฤษ และนายโจเซฟ เทรวิธิค นักเขียนเรื่องการพัฒนาระเบิดสำหรับเว็บไซต์เรื่องสงครามชื่อ เดอะวอร์โซน(TheWarZone)ว่า รัสเซียเริ่มนำระเบิดรุ่น FAB-1500 ซึ่งเป็นระเบิดนำวิถี ที่มีอานุภาพรุนแรงมาใช้โจมตีทางอากาศในการสู้รบกับยูเครนในเมืองคราสโนโฮริฟกา(Krasnohorivka)และเมืองอัฟดิอิฟกา ในแคว้นโดเนสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงสัปดาห์ก่อน มีทหารยูเครนเสียชีวิตหลายราย ทั้งทำลายแนวป้องกันทางของกองทัพยูเครนอย่างราบคาบ ทำให้กองทัพรัสเซียอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ รุกคืบได้มากขึ้น



          ผู้เชี่ยวชาญทั้งสอง ระบุว่า ระเบิดดังกล่าวเป็นอาวุธใหม่ ซึ่งรุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ สามารถติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่ส่วนใหญ่ของรัสเซีย อีกทั้งช่วยให้นักบินรบสามารถโจมตีข้าศึกในระยะห่างจากแนวป้องกันของข้าศึก คาดว่า รัสเซียใช้วิธีดัดแปลงระเบิดดังกล่าว ซึ่งสร้างขึ้นในยุคอดีตสหภาพโซเวียตมามาใช้เป็นระเบิดติดตั้งระบบนำวิถี ซึ่งเมื่อโจมตีทางอากาศยังพื้นดินจะทำให้เกิดหลุมยุบกว้างถึง 15 เมตร



         คลิปวิดีโอจากสนามรบในแคว้นโดเนตสก์ที่กองทัพยูเครนบันทึกเมื่อเร็วๆนี้ แสดงให้เห็นสภาพอาคารบ้านเรือนเสียหายรุนแรง หลังรัสเซียใช้ระเบิดรุ่น FAB-1500 มาโจมตีโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน,โรงงานและอาคารพักอาศัย และค่ายทหารของยูเครน สำหรับระเบิดดังกล่าว หนัก 1.5 ตัน มีส่วนประกอบหลักๆเกือบครึ่งหนึ่ง ล้วนเป็นวัตถุระเบิดที่มีอานุภาพทำลายล้างรุนแรง สามารถใช้วิธีติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่ เพื่อโจมตีทางอากาศ ห่างจากเป้าหมาย 60-70 กิโลเมตร ซึ่งอยู่นอกขอบข่ายที่ระบบป้องกันทางอากาศส่วนใหญ่ของยูเครน นับเป็นอาวุธร้ายแรงอีกชนิดหนึ่งที่รัสเซียนำมาใช้ในการสู้รบกับยูเครน ทำให้รัสเซียรุกคืบ ยึดดินแดนจากยูเครนในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนมากขึ้น



#สงครามยูเครน

ข่าวทั้งหมด

X