รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายการใช้จ่าย 460,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการที่หน่วยงานภาครัฐจะต้องหยุดการทำงานโดยพนักงานเจ้าหน้าที่จะไม่ได้รับค่าจ้าง หรือที่เรียกว่าชัตดาวน์ และยังเป็นก้าวสำคัญในการสรุปงบประมาณของรัฐบาลกลางปี 2567 ซึ่งหยุดชะงักเป็นเวลาหลายเดือนเนื่องจากสภาคองเกรสถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน ระหว่างสภาผู้แทนราษฎรที่ควบคุมด้วยพรรครีพับลิกัน กับวุฒิสภาที่มีเดโมแครตครองเสียงข้างมาก
เมื่อต้นสัปดาห์ สภาผู้แทนราษฎรลงมติด้วยคะแนนเสียง 339 ต่อ 85 เสียงอนุมัติแพ็คเกจการใช้จ่ายมูลค่า 460,000 ล้านดอลลาร์ของร่างกฎหมาย 6 ฉบับที่จะสนับสนุนด้านการเกษตร การขนส่ง ที่อยู่อาศัย พลังงาน ทหารผ่านศึก และโครงการอื่นๆ จนถึงสิ้นปีงบประมาณในวันที่ 30 กันยายน
จากนั้นเข้าสู่การลงมติของวุฒิสภา ที่มีข้อขัดแย้งในประเด็นเกี่ยวกับผู้อพยพ และลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณด้วยคะแนนเสียง 75 ต่อ 22 เสียงในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะต้องชัตดาวน์
ขั้นตอนสุดท้ายคือ การนำเสนอประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนามในกฎหมายเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังมีร่างกฎหมายงบประมาณอีก 6 ฉบับที่ทั้ง 2 สภาจะต้องเจรจาเพื่อหาข้อตกลงให้ได้ก่อนถึงกำหนดชัตดาวน์อีกรอบในวันที่ 22 มีนาคม ซึ่งจะเป็นงบประมาณของกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ตลอดจนหน่วยงานและโครงการอื่น ๆ
ร่างกฎหมายที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบ และที่อยู่ในระหว่างรอดำเนินการ จะประกอบเป็นงบประมาณประจำปีของรัฐบาลกลาง มูลค่า 1,660,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งควรมีการบังคับใช้เป็นกฎหมายภายในวันที่ 1 ตุลาคม วันเริ่มต้นของปีงบประมาณ 2567 ซึ่งเป็นเวลาหลายปีแล้วที่สภาคองเกรสไม่สามารถลงมติได้ทันกำหนดเวลา
…
#วุฒิสภาสหรัฐ
#งบประมาณ