*ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30น.*

22 พฤษภาคม 2558, 05:56น.


+++สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนว่า เครื่องบินกองทัพซีเรียโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาล ในเขตอัล-ชาอาร์ของเมืองอะเลปโป ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยการทิ้งระเบิดถังน้ำมันและยิงจรวด การโจมตีทำให้กลุ่มกบฏเสียชีวิตอย่างน้อย 40 ศพ ในจำนวนนี้รวมถึงระดับหัวหน้า 3 ศพด้วย นายรามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า คลังเก็บกระสุนของกลุ่มกบฏเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง หลังถูกโจมตีทางอากาศ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า การระเบิดซ้ำของคลังเก็บกระสุน ทำให้ทั้งเขตอัล-ชาอาร์ทางฝั่งตะวันออกของเมืองสั่นสะเทือนรุนแรงเหมือนเกิดแผ่นดินไหว การใช้ระเบิดถังน้ำมันของกองทัพซีเรีย ซึ่งใช้ถังน้ำมันเชื้อเพลิงเก่าบรรจุดินระเบิดและสะเก็ดโลหะ ทิ้งจากอากาศโดยเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนนานาชาติมาตลอด เนื่องจากไม่มีความแม่นยำ จึงสร้างความเสียหายอย่างมาก ต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือน ที่ไม่ใช่เป้าหมายโดยตรงอยู่เสมอ



+++นายรามี อับดุลรามาน ประธานกลุ่มเฝ้าระวังสิทธิมนุษยชนซีเรียในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า กลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)สามารถควบคุมเมืองพัลไมราของซีเรียได้ทั้งหมดแล้ว เพิ่มความหวั่นวิตกให้กับชาวเมืองพัลไมราและหวั่นเกรงว่าแหล่งโบราณคดีที่ได้รับการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกอาจจะถูกทำลาย ซึ่งมีศิลปะและสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานอารยะธรรมของกรีก โรมันและเปอร์เซียในลักษณะเดียวกับการบุกเข้าทำลายแหล่งโบราณสถานในเมืองนิมรุดของซีเรียและการทุบทำลายรูปปั้นในพิพิธภัณฑ์เมืองโมซุลของอิรักไปก่อนหน้านี้



+++องค์กรเฝ้าระวังฯ ระบุว่า กลุ่มไอเอสประหารชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 17 ศพ ในนั้นเป็นพลเรือนหลายคน หลังนักรบบุกยึดพัลไมราเมืองโบราณในซีเรียได้อย่างเบ็ดเสร็จ นักเคลื่อนไหวชาวซีเรีย บอกกับเอเอฟพีผ่านเฟซบุ๊คว่า กลุ่มไอเอส ออกคำสั่งให้ชาวบ้านอยู่ภายในที่พักอาศัยและกำลังตรวจค้นตามบ้านเรือน เพื่อตามล่าพวกที่ภักดีต่อรัฐบาล นอกจากนี้แล้วนักเคลื่อนไหวรายดังกล่าว เปิดเผยว่า ได้คุยกับผู้คนในเมืองพัลไมราทางโทรศัพท์ และได้รับการบอกเล่าว่าพวกเขาต้องการหลบหนีออกจากเมืองแต่ก็ไม่กล้า ข้อมูลของศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย บอกว่ามีประชาชนเสียชีวิตแล้วกว่า 460 ศพ จากเหตุสู้รบเพื่อแย่งชิงเมืองพัลไมราที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.



+++การประชุมติดตามสถานการณ์และการแก้ปัญหาชาวโรอิงญา รายงานเจ้าหน้าที่ของเมียนมาร์ เผยว่า จะเข้าร่วมการประชุมที่ไทยเป็นเจ้าภาพในวันที่ 29 พ.ค. หลังโฆษกประธานาธิบดียันพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลทุกชาติเพื่อจัดการกับวิกฤตผู้อพยพที่ขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ เมียนมาร์ตกอยู่ท่ามกลางความสงสัยมาตลอด แม้ถูกกดดันทางการทูตอย่างหนัก แม้จะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะเข้าร่วมประชุมหรือไม่ แต่ จิลล์ แม็คกีฟวิง นักวิเคราะห์เอเชียตะวันออกของสำนักข่าวบีบีซีบอกว่าข้อเท็จจริงที่พวกเขาจะเข้าร่วมเริ่มเห็นชัดมากขึ้น  อ้างคำแถลงของนายซอ ฮเตย์ โฆษกประธานาธิบดีพม่า ที่บอกว่า การตัดสินมีขึ้นภายหลังได้รับหนังสือเชิญจากไทย พร้อมย้ำเมียนมาร์ไม่ใช่ประเทศเดียวที่ต้องรับผิดชอบต่อวิกฤตที่เกิดขึ้น



+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาว่า ผู้ลี้ภัยทางเรือที่พยายามลักลอบเดินทางเข้าสู่ออสเตรเลีย แต่ถูกสกัดจับกลางทะเล และปฏิเสธไม่ให้อยู่อาศัยในประเทศ จะเดินทางจากศูนย์กักกันผู้ลี้ภัย ที่ประเทศเกาะนาอูรู ในมหาสมุทรแปซิฟิก ย้ายมาลงหลักปักฐาน อยู่อาศัยอย่างถาวรที่ประเทศกัมพูชา ตามข้อตกลงร่วมระหว่างรัฐบาลออสเตรเลียและกัมพูชา เมื่อ 9 เดือนก่อน พล.อ.เขียว โสเพียก โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา เปิดเผย ว่า นายฮุน เซน นายกฯกัมพูชา ลงนามในหนังสืออนุมัติเมื่อวันพุธ และขณะนี้เจ้าหน้าที่กัมพูชากับออสเตรเลียกำลังหารือกัน เกี่ยวกับกำหนดวันที่ผู้ลี้ภัยชุดแรก 4 คนจะเดินทางมาที่กัมพูชา โดยทั้ง 4 คนประกอบด้วยชาวอิหร่าน 3 คน ชาย 2 หญิง 1 และชายชาวโรฮิงญาจากเมียนมาร์อีก 1 คน ทั้งหมดเป็นคนเพียงกลุ่มเดียว ที่สมัครใจขอมาใช้ชีวิตในกัมพูชา อย่างไรก็ตาม พล.อ.เขียวปฏิเสธที่จะเผยรายละเอียด ผู้ลี้ภัยชุดแรกนี้จะพักอาศัยที่ไหน หลังจากเดินทางมาถึง รัฐบาลออสเตรเลียทำข้อตกลงกับทางการกัมพูชา เมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว แม้จะมีเสียงวิจารณ์แสดงความวิตกว่า กัมพูชายากจนเกินไปที่จะรองรับผู้อยู่อาศัยใหม่ และสถิติที่ไม่ดีด้านสิทธิมนุษยชน อาจทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ตกอยุ่ในความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกัมพูชาได้ส่งคณะเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่ค่ายกักกันของออสเตรเลียในนาอูรู เพื่อพบปะกับผู้ลี้ภัยทั้ง 4 คน ที่สมัครใจขอมาอยู่อาศัยที่กัมพูชา เพื่อให้แน่ใจว่า การโยกย้ายคนกลุ่มนี้ถูกต้องตามกฏหมาย และไม่มีการบีบบังคับ



+++บีบีซี รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษกล่าวว่ารัฐบาลจะไม่ล้มเลิกเรื่องเป้าหมายคนเข้าเมือง ถึงแม้ว่าตัวเลขผู้อพยพเข้าไปอยู่ในอังกฤษจะอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 10 ปี สำหรับอัตราการย้ายถิ่นฐานเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 เป็น 3 แสน18,000 คนเมื่อปีก่อน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นมากจากทั้งในและนอกกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) โดยมีคนย้ายเข้าไปอยู่ในอังกฤษรวมทั้งหมด 6 แสน41,000 คนเมื่อปีก่อน รัฐบาล เปิดเผยมาตรการต่างๆเพื่อลดการทำงานของแรงงานที่เข้าเมืองอย่างผิดกฏหมาย หนึ่งในมาตรการเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้คือการยึดค่าจ้างของแรงงานที่เข้าเมืองอย่างผิดกฏหมายเนื่องจากถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการทำความผิด



+++จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ด้านอำนวยการบินแห่งกองทัพเรือจีน เรียกร้องผ่านวิทยุถึง 8 ครั้งให้เครื่องบินลาดตระเวนพี-8เอ โพไซดอนลำหนึ่งของกองทัพสหรัฐฯ ออกนอกพื้นที่ขณะที่บินอยู่เหนือแนวปะการัง เฟียรี ครอส รีฟ บริเวณน่านน้ำพิพาทของทะเลจีนใต้ แต่ลูกเรือสหรัฐฯตอบกลับไปว่าพวกเขาบินอยู่เหนือน่านฟ้าสากล จนเจ้าหน้าที่อำนวยการบินของกองทัพเรือจีนต้องเตือนอีกรอบว่า "นี่คือกองทัพเรือจีน คุณควรไปได้แล้ว" ล่าสุด  นายหง เล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวแถลงย้ำจุดยืนต่ออำนาจอธิปไตยอย่างไม่มีข้อโต้แย้งเหนือเกาะๆต่างที่พวกเขาสร้างขึ้นจากการนำทรายไปถมบนแนวหินปะการังและแนวหินโสโครก แม้บอกว่าเขาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับรายงานข่าวเหตุโต้เถียง แต่นายหง ยืนยันถึงความชอบธรรมของการลาดตระเวนเหนือน่านฟ้าและพื้นที่ทางทะเลที่เกี่ยวกับเพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของชาติและหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ทางทะเลใดๆ  หวังว่าประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้องจะเคารพอำนาจอธิปไตยของจีนเหนือทะเลจีนใต้ ละทิ้งพฤติกรรมที่อาจก่อการโต้เถียงอย่างรุนแรงและหันมาทำบทบาทเชิงสร้างสรรค์เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค



+++กองทัพอากาศโคลอมเบีย ส่งเครื่องบินรบขึ้นประกบขับไล่เครื่องบินขนาดเล็ก ฮอว์กเกอร์ 800 ที่บินออกจากเวเนซุเอลา และลักลอบเข้ามาในน่านฟ้าของโคลอมเบียอย่างผิดกฎหมาย เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. วันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น เครื่องบินลำดังกล่าวพยายามเร่งเครื่องหนี จนเครื่องยนต์ 1 ใน 2 ของเครื่องเกิดขัดข้องและหยุดทำงาน ทำให้เครื่องตกลงในทะเลแคริบเบียน นอกชายฝั่งเมืองเปอร์โตโคลอมเบีย ทางตอนเหนือของโคลอมเบีย ซึ่งหน่วยยามชายฝั่งสามารถกู้ศพของนักบินขึ้นมาได้แล้ว ท่ามกลางซากชิ้นส่วนเครื่องบิน และโคเคนบรรจุห่อละ 1 กิโลกรัมรวมน้ำหนักประมาณ 1.2 ตัน นายวลาดิเมียร์ ปาดริโน รมว.กระทรวงมหาดไทยเวเนซุเอลา แถลงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า เครื่องบินลำนี้บินจากสนามบินลับแห่งหนึ่งในรัฐอาปูเร ทางตะวันตกของประเทศ ติดพรมแดนโคลอมเบีย กองทัพเวเนซุเอลาได้ส่งเครื่องบินขึ้นติดตามและสั่งให้เครื่องลงจอด แต่ถูกปฏิเสธจนกระทั่งเครื่องลำดังกล่าวเลยเข้าไปยังน่านฟ้าของโคลอมเบีย จึงประสานไปยังทางการโคลอมเบีย ให้รับช่วงไล่ติดตามต่อ



+++นายเจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อช่วยให้เกิดความคล่องตัวในเก็บกวาดคราบน้ำมันที่รั่วไหลจากท่อส่งน้ำมันเส้นหนึ่ง มีน้ำมันดิบรั่วไหลออกมากว่า 1 แสนแกลลอนในพื้นที่ทางตอนใต้ ในจำนวนนี้ราว 79,380 ลิตร ไหลลงสู่มหาสมุทร  น.ส.เจนนิเฟอร์ วิลเลียมส์ โฆษกหญิงหน่วยยามชายฝั่งสหรัฐฯ แถลงว่า ภาพมุมสูงที่ได้จากการใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจในจุดเกิดเหตุพบว่า คราบน้ำมันได้กินพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งเป็นความยาวราว 14 กิโลเมตร ใกล้ชายหาดเรฟูจิโอ  อยู่ห่างจากนครลอสแองเจลิสไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 130 ไมล์ ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนวันทหารผ่านศึกในช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นวันเริ่มต้นของฤดูท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน สาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

 



CR:AFP

ข่าวทั้งหมด

X