ปธ.ที่ปรึกษาการค้าต่างประเทศ ชี้ ไทยโดดเด่นโลจิสติกส์' หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับฝรั่งเศส

          ความสัมพันธ์การทางค้าระหว่างไทยกับฝรั่งเศส  โดยเฉพาะการเดินทางเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยจะมีการประชุมหารือกับภาครัฐ เพื่อยกระดับสถานะความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partner) ระหว่างกันภายในปี ค.ศ. 2024  รวมถึงการหารือ ความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างกันในหลายๆด้าน การหารือร่วมกับภาคเอกชน นักลงทุนกลุ่มเป้าหมาย ยานยนต์ อากาศยาน ฯลฯ รวมทั้งมีกำหนดการเข้าหารือกับ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ในวันที่ 11 มีนาคมนี้ด้วย

          นายอาร์โนด์ เบียเลคกิ กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  โซเด็กซ์โซ่ และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาการค้าต่างประเทศฝรั่งเศสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลฝรั่งเศส ได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาการค้าต่างประเทศฝรั่งเศสแห่งประเทศไทย ซึ่งมีหน้าที่หลักแนะนำนักธุรกิจฝรั่งเศสที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และนักธุรกิจไทยจะต้องการไปลงทุนที่ฝรั่งเศส  ในฐานะที่ตนเป็นผู้บริหารบริษัท โซเด็กซ์โซ่ ได้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาฯ มากว่า 10 ปี และเป็นประธานมา 3 ปี  ซึ่งการเดินทางของนายกรัฐมนตรีไทยไปเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้ภารกิจหลักคือ การเชิญนักลงทุนฝรั่งเศสมาสนับสนุน โครงการแลนด์บริดจ์เพิ่มเติม

          “สำหรับประเทศไทยแล้ว เรามองว่ามีข้อได้เปรียบทางด้านระบบโลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็น ท่าเรือมาบตาพุดและท่าเรือแหลมฉบัง ที่การคมนาคมขนส่ง ระบบสาธารณูปโภคที่มีศักยภาพ แม้ว่าประเทศไทยจะมีค่าแรงที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคก็ตาม แต่ด้านโลจิสติกส์ไทยมีความพร้อม ทำให้ภาพรวมการลงทุนในระยะยาว ประเทศไทยนั้นมีข้อดีที่ดีกว่าข้อเสีย เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนอย่างยิ่ง”  นายอาร์โนด์กล่าว

          ปัจจุบันมีบริษัทจากฝรั่งเศสมาลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทยราว 300 บริษัท ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา  เช่น บริษัท เอสซีลอร์ลูซอตติกา (ประเทศไทย) จำกัด (EssilorLuxottica (Thailand) Ltd)  ผู้นำระดับโลกด้านการออกแบบ บริษัท และจัดจำหน่ายเลนส์แว่นตา กรอบแว่น และแว่นกันแดด เข้ามาดำเนินการในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ (WHA Eastern C board 4)ด้วยการเปิดโรงงานการผลิตที่จ.ระยอง ด้วยเม็ดเงินลงทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันมีพนักงาน 600 คน และคาดว่าอีก 2 ปี จะเพิ่มถึง 7,000 คน โดยตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อส่งสินค้าออกไปทั่วโลก  

          รวมทั้ง บริษัท  Revima Asia Pacific Company Ltd. ที่เข้ามาประกอบธุรกิจซ่อมอากาศยานหรือชิ้นส่วนของอากาศยาน เช่น ล้อหรือชิ้นส่วน ที่ใช้รับน้ำหนักเมื่อลงสู่พื้นดิน  และบริษัท FORVIA ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้กับบริษัทผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก มีโรงงาน 3-4 แห่งในไทย  ฯลฯ

        โดยการเดินทางของนายเศรษฐา ที่กรุงปารีส จะพบปะกับผู้บริหารบริษัทโฟล์คสวาเกน รวมทั้งจะมีการพูดคุยกับตัวแทนฝ่ายจัดการแข่งขันฟอร์มูล่า วัน เพื่อดึงให้ฟอร์มูล่า วันมาจัดการแข่งขันในประเทศไทย รวมทั้งเชิญชวนให้มาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย

          นอกจากนั้น ฝรั่งเศส  ยังได้เปิดโอกาสธุรกิจจากประเทศไทยเข้าไปลงทุนด้วย  ซึ่งปัจจุบันมีบริษัท ไทยยูเนี่ยนโฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)  บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) – PTTGC  บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)

          ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ถูกจับตามอง เมื่อครั้ง  นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เดินทางเข้าร่วมประชุมเอเปคเมื่อปี 2565 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ได้ลงพื้นที่ย่านเยาวราช ดูการชกมวยของไทย สักการะวัดพระเชตุพนฯ โดยยกให้เป็นSoft power ของไทยด้วย

          นอกจากนั้น ประธานที่ปรึกษาการค้าต่างประเทศของฝรั่งเศส ยังให้ความสนใจต่อกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจรีเทลของไทยจากมีความชำนาญรวบรวมสินค้าจากแบรนด์ชื่อดังๆ ของโลก และร้านค้าต่างๆ ไว้ในศูนย์การค้าอย่างครบวงจร  เชื่อว่า รีเทลของไทยยังสามารถขยายการลงทุน และมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในฝรั่งเศส”

          ส่วนในฐานผู้บริหารโซเด็กซ์โซ่ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจลงทุนในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี และยังเป็นผู้นำธุรกิจบริการด้านอาหารและให้บริการบริหารอาคารแบบครบวงจรที่ครอบคลุมถึงงานซ่อมบำรุงงานบริการรักษาความสะอาด งานดูแลรักษาความปลอดภัย งานดูแลปรับภูมิทัศน์ และอื่นๆ   

          ปัจจุบันโซ่เด็กซ์โซ่ ทั่วโลก มีพนักงาน  430,000 คน จำนวน 45 ประเทศ  และโซ่เด็กซ์โซ่ ประเทศไทย มีพนักงานกว่า 3,700 คน  ประจำอยู่กว่า 200 ไซต์งาน  โซเด็กซ์โซ่  ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้คะแนนสูงสุดจากการประเมินด้านความยั่งยืนของบริษัทติดต่อกัน 18 ปีซ้อน (GJSI : Dow Jones Sustainability Indices)

#เศรษฐกิจ

#ไทยฝรั่งเศส