การลักลอบเผาทำลายพพื้นที่ป่า นายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปายจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ตามนโยบายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เข้มงวดกวดขัน การลักลอบเข้าพื้นที่ป่าเพื่อตัดไม้ ล่าสัตว์ หาของป่า ซึ่งจะเป็นสาเหตุการเผาป่า ซึ่งทำให้เกิดจุด hotspots ในพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย บริเวณป่าดอยเขียว ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวนมาก
โดยเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจและเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าปางมะผ้า ลาดตระเวนดับไฟและหาตัวผู้ลักลอบเผาป่า ตามจุด hotspots บริเวณป่าดอยเขียว หมู่ 6 บ้านกึ๊ดสามสิบ ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน โดยการเดินลาดตระเวนเข้าพื้นที่ และดักซุ่มตลอดทั้งวัน
และเมื่อเวลา22.30 น. พบชายต้องสงสัย 1 คน พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว เดินมาที่รถจักรยานยนต์ ที่จอดทิ้งไว้ บริเวณที่เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่ ทราบชื่อคือ นายอาซือผะ ซือจา อายุ 43 ปี ให้การว่า ได้เสพยาบ้ามาครึ่งเม็ด และเข้าไปล่าสัตว์ป่า(เม่น) ในพื้นที่ ขสป.ลุ่มน้ำปาย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน ที่หน่วยพิทักษ์ป่าปางมะผ้า แจ้งข้อกล่าวหานายอาซือผะ ว่า เข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเข้าไปล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ตรวจสอบในกระเป๋าเป้ ยังพบกระสุนปืนอีก 9 นัด และในรังเพลิงอีก 1 นัด มีด 1 เล่ม ไฟแช็ค อีก 2 อัน กรรไกร 1 เล่ม ไฟฉายคาดหัว 2 อัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดจักรยานยนต์อีก 1 คัน และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง พร้อมบันทึกตรวจยึดจับกุมส่ง สภ.ปางมะผ้าจ.แม่ฮ่องสอน เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไป
ขอเตือนผู้กระทำผิดจุดไฟเผาป่า ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ สวนรุกขชาติ มีบทลงโทษหนัก จำคุกสูงสุด 20 ปี ปรับสูงสุด 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอให้ประชาชน ที่อยู่อาศัยใกล้แนวเขตอุทยานฯ ตลอดจนพื้นที่อนุรักษ์อื่นๆ และผู้ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ได้ร่วมด้วยช่วยกันดูแลปกป้องผืนป่า ไม่ให้เกิดไฟป่า และหากพบเห็นบุคคลใดจุดไฟ หรือบริเวณใดเกิดไฟป่า ขอความกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในพื้นที่ หรือสายด่วน 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
#เผาป่า
#เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปายแม่ฮ่องสอน