เกิดเหตุระทึกขึ้นเมื่อวันพุธ (6 มี.ค.67) ในช่วงที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน พานายคีเรียคอส มิตโซตาคิส นายกรัฐมนตรีกรีซ ลงพื้นที่ไปดูความเสียหายที่เมืองท่าโอเดสซา ริมทะเลดำ จากการโจมตีของรัสเซียหลายเดือน นายมิตโซตาคิส เปิดเผยว่า ได้ยินเสียงไซเรนโจมตีทางอากาศ หลังจากนั้นไม่นาน ขณะที่กำลังขึ้นรถ ก็ได้ยินเสียงระเบิดครั้งใหญ่ เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดว่า ในพื้นที่นี้มีสงครามเกิดขึ้นทุกวัน ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่แนวหน้า และ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ได้รับผลกระทบ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เสียงระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นการยิงขีปนาวุธของรัสเซีย ตกห่างจากขบวนรถของผู้นำทั้งสองคนเพียง 500 เมตรเท่านั้น
ดิมีโตร เพลเตนชุก โฆษกกองทัพเรือยูเครน กล่าวกับ CNN ว่า มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ ผู้นำทั้งสองคนปลอดภัย แต่อยู่ใกล้ขนาดได้ยินเสียงดังมาก นายเซเลนสกี กล่าวว่า เหตุการณ์โจมตีเกิดขึ้นได้ตลอด และมีผู้เคราะห์ร้ายตกเป็นเหยื่อ เป็นการกดดันรัฐบาลยูเครน วิธีที่ดีที่สุด คือ การเพิ่มการใช้ระบบป้องกันภัยทางอากาศ
เจ้าหน้าที่ยูเครน กล่าวว่า รัสเซียได้เพิ่มการโจมตีในภูมิภาคนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และเมื่อวันเสาร์(2 มี.ค.67) โดรนของรัสเซียโจมตีอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย ในนั้นรวมถึงเด็ก 5 ราย
ด้านทำเนียบขาว กล่าวถึง เหตุการณ์การโจมตีว่าเป็นสัญญาณหนึ่งที่ชี้ว่าประเทศที่เสียหายจากสงครามต้องการความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติม เป็นการกดดันให้นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เร่งผ่านแพคเกจความช่วยเหลือยูเครน จัดหายุทโธปกรณ์ให้กองทัพยูเครนป้องกันการโจมตีของรัสเซีย
#ยูเครน
#รัสเซีย
CR:CNN,Daily Express