ผบก.น.5 ยืนยันไม่มี 'มาเฟียสาวสอง' เชื่อเหตุปะทะมาจากเขม่นกันแล้ว สาวสองฟิลิปปินส์ บินออกจากไทยหลบหนี

05 มีนาคม 2567, 15:31น.


          ตั้งแต่ช่วงเช้านี้ที่ สน.ลุมพินี มีการสอบปากคำเหตุการณ์สาวสองปะทะกันตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าวันนี้ โดยมีการสอบปากคำชาวไทย 7 คน-ชาวฟิลิปปินส์ 4 คน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ระบุว่า จากการสอบปากคำกลุ่มสาวสองไทยทั้งหมด 7 คน เบื้องต้นทราบว่าทั้ง 2 ฝ่าย มีปัญหากันมาก่อน ทั้งสองฝ่ายเคยถูกเชิญตัวมาไกล่เกลี่ยกันที่ สน.ปทุมวัน แล้วครั้งหนึ่ง ก่อนปล่อยตัวกลับไป แล้วไปก่อเหตุรุมทำร้ายกันเมื่อวันที่ 4 มีนาคม กลุ่มผู้เสียหายจึงตามไปถึงที่พักของกลุ่มผู้ก่อเหตุชาวฟิลิปปินส์ เมื่อตำรวจทราบข่าวจึงเดินทางเข้าไปยับยั้งเหตุการณ์ไม่ให้สถานการณ์บานปลาย พร้อมเชิญผู้ก่อเหตุชาวฟิลิปปินส์และกลุ่มผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ แต่เมื่อมีคนโพสต์กระแสโซเชียล ทำให้มีกลุ่มสาวสองมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เพื่อกดดันชาวฟิลิปปินส์ที่พักอาศัยอยู่ในโรงแรมดังกล่าว ตำรวจจึงต้องนำกำลังจากสถานีตำรวจข้างเคียงกว่า 40 นาย เข้าไปนำตัวชาวฟิลิปปินส์ที่พักอาศัยอยู่ออกมาจากโรงแรม เพราะกลัวว่าสถานการณ์จะบานปลายเกิดขึ้น แต่ในขณะนั้น ทางกลุ่มก็ได้เข้ามารุมประชาทัณฑ์จนทำให้ชาวฟิลิปปินส์ได้รับบาดเจ็บ 1 คน



          ส่วนสาเหตุเชื่อว่า เป็นการเขม่นเมื่อเจอกัน อาจเพราะเชื้อชาติที่ต่างกัน ความเห็นต่างกัน และเหตุดังกล่าวเคยมีการพยายามเจรจาเคลียร์กันไปแล้วหลายครั้งและก็แยกย้ายกันไป แต่ต่อมามีการโพสต์ลงโซเชียล อีกครั้งทำให้มีการรวมตัวกันขึ้นเหตุการณ์บานปลายเกิดเหตุชุลมุนขึ้น ส่วนการดำเนินคดีเบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายเป็นชาวไทย เพื่อระบุตัวบุคคลผู้ก่อเหตุ



          ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บชาวฟิลิปปินส์เบื้องต้นได้นำตัวมาสอบปากคำจำนวนทั้งสิ้น 4 คน หนึ่งในผู้รับบาดเจ็บได้มีการแจ้งความกับผู้ที่เข้าไปทำร้ายขณะนำตัวมาที่สถานีตำรวจแล้ว เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ว่ามีใครเข้าข่ายการกระทำความผิดหรือไม่



          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มีการแจ้งความไว้ทั้งสองฝ่ายแล้ว และส่งผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่ายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว โดยตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อหาทั้ง 2 ฝ่าย และจะต้องตรวจสอบโดยเฉพาะกล้องวงจรปิด และ Body Camera ของตำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ก่อเหตุทั้งสองฝ่ายให้ได้มากที่สุด



          โดยส่วนของกลุ่มสาวสองชาวฟิลิปปินส์ก็จะต้องพิสูจน์ทราบตัวบุคคลให้ได้ทั้งหมดก่อน จึงจะทราบว่ามีบุคคลใดที่หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วบ้าง และหากคู่กรณีออกนอกประเทศไปก็มีขั้นตอนดำเนินการอยู่แล้ว ขอให้มั่นใจการทำงานของตำรวจ



          นอกจากนี้ได้ประสานทางตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบการกระทำความผิดของกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศชาวฟิลิปปินส์ว่าได้เดินทางเข้าประเทศโดยถูกกฎหมาย หรืออยู่เกินกว่าระยะเวลากำหนด ส่วนประเด็นที่เข้ามาประกอบอาชีพในประเทศไทยหรือไม่นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมยืนยันเบื้องต้นไม่มีกลุ่มมาเฟียอยู่เบื้องหลังและจะขอตรวจสอบก่อนและจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่โรงแรมที่เกิดเหตุด้วย



#สาวสองทะเลาะกัน



#ฟิลิปปินส์ไทย

ข่าวทั้งหมด

X