โลกผลิตคาร์บอนทำสถิติใหม่ แม้จะมีการเปลี่ยนใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น

02 มีนาคม 2567, 16:11น.


          มลพิษคาร์บอนทั่วโลกจากการผลิตพลังงานแตะระดับสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในปีที่แล้ว (2566) ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่เพิ่มขึ้นในประเทศที่มีปัญหาภัยแล้ง ทำให้ต้องไม่สามารถผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ตามรายงานของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ฉบับล่าสุด



          นักวิทยาศาสตร์ ย้ำว่ามีความจำเป็นที่จะต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงอย่างมาก เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกและป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีส



          ตามรายงานระบุว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกจากพลังงานเพิ่มขึ้น 410 ล้านเมตริกตันหรือร้อยละ 1.1 ในปี 2566 เป็น 37,400 ล้านเมตริกตัน



          การขยายตัวของเทคโนโลยีสะอาด เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และยานพาหนะไฟฟ้า ช่วยลดอัตราการเติบโตของการปล่อยก๊าซ ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1.3 ในปี 2565 แต่การเปิดเศรษฐกิจของจีนอีกครั้ง ทำให้การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มขึ้นในประเทศที่มีผลผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในระดับต่ำและการฟื้นตัวในภาคการบินนำไปสู่การเพิ่มขึ้นโดยรวม



          การใช้เชื้อเพลิงทดแทนการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำเนื่องจากภัยแล้งที่รุนแรงคิดเป็นประมาณร้อยละ 40 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้น หรือ 170 ล้านตันของคาร์บอนไดออกไซด์



          IEA ระบุว่า หากไม่มีปัจจัยเหล่านี้ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกจะลดลงในปี 2566



          นอกจากนี้ การปล่อยก๊าซที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในสหรัฐอเมริกาลดลงร้อยละ 4.1 ส่วนใหญ่มาจากภาคการผลิตไฟฟ้า



          ในสหภาพยุโรป การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพลังงานลดลงเกือบร้อยละ 9 โดยได้รับแรงหนุนจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว



           ในประเทศจีน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 ตามความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น ในเวลาเดียวกันจีนยังมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอยู่ในระดับร้อยละ 60 ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และยานพาหนะไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2566





#คาร์บอน



#ไออีเอ



#พลังงานหมุนเวียน

ข่าวทั้งหมด

X