ฝรั่ง-ภรรยาทำร้ายหมอที่ภูเก็ตแถลงขอโทษ อ้างเคยถูกนทท.จีนรุกล้ำมาก่อน

01 มีนาคม 2567, 18:04น.


          นายอดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าฯภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต. สินเลิศ สุขุม ผบก ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สวญ.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 นายสุทัศน์ นิยมไทย ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต และปกครองจังหวัดภูเก็ต ได้มีการประชุมร่วมกัน เกี่ยวกับกรณีชาวต่างชาติทำร้ายแพทย์หญิง ขณะที่กำลังนั่งอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นวิลล่าหรู พร้อมได้เชิญตัว นายเดวิด กับภรรยาและทนายความ มาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



          นางคนึงนิจ ภรรยานายเดวิด เล่าว่า ก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวจีนได้รุกล้ำเข้าไปยังวิลล่าที่เช่าอยู่ ซึ่ง นายเดวิด ไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายหมอ แต่คิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวจีน ที่เคยรุกล้ำเข้ามาภายในวิลล่า ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างด้วย



          ส่วนเรื่องพูดจาดูถูกด่ากราดคู่กรณีนั้น ขอชี้แจงว่า เหตุเกิดกำลังนอนหลังเมื่อถูกปลุกตื่นขึ้นมาจึงงัวเงียและพูดไปด้วยความตกใจ ไม่ได้มีเจตนาดูถูกเหยียดหยามคุณหมอแต่อย่างใด เรื่องที่บอกว่ารู้จักกับตำรวจใหญ่ เป็นเรื่องจริง วันนั้นที่โทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจแค่ให้เข้ามาดูแลเท่านั้น ส่วนลูกชายของตนเป็นตำรวจจริง แต่เป็นยศแค่สิบตำรวจเอก ไม่ได้ยศใหญ่โตอะไร ตนรู้สึกผิดและขอโทษในการกระทำและคำพูดของตนในคืนนั้น



          ส่วนนายเดวิด บอกว่า อยากขอโทษชาวไทยทุกคนและคุณหมอต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาตนรักเมืองไทยมาก และสนับสนุนชาวไทยทุกคน แม้ตนเป็นชาวสวิสเซอร์แลนด์ แต่ปัจจุบันมองว่า เมืองไทยคือ บ้าน ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะบานปลายขนาดนี้



          ด้าน ทนายความ กล่าวว่า "วิลล่าหลังนี้เขาได้เช่าอยู่อาศัย ในแง่ของกฎหมาย คดีบุกรุก ก่อนหน้านี้ตามหลักวิชาชีพได้ให้คำปรึกษา ถ้าจะดำเนินคดีเข้าหาบุกรุกต้องมีพฤติการณ์คือ เขาต้องเป็นเจ้าของแต่เท่าที่ดูไม่ใช่เป็นเจ้าของเป็น ผู้เช่า และในพื้นที่ที่มีการบุกรุกเป็นส่วนที่เขามีสิทธิ์ครอบครองหรือไม่ หรือเขาเป็นเจ้าของหรือไม่ปรากฏว่า ภายหลังเกิดเหตุไม่สามารถยืนยันได้ เพราะเขาไม่ได้เป็นคนสร้างตรงนั้น เป็นเพียงผู้เช่า ถ้าให้ผมทำคดีก็ไม่รับทำคดีให้ แต่ได้ยินจากปากเขาเองว่าเขาไม่ดำเนินคดี ซึ่งถูกต้องและเป็นไปตามหลักกฎหมาย ซึ่งป้ายที่ปักไว้ว่าห้ามบุกรุกเป็นของโครงการ บ้านมีโครงการดูแลอยู่



          ในเรื่องนี้มองในมุมกฎหมาย เขามีสิทธิ์ต่อสู้คดีตามมาตรฐานกฎหมายไทย แต่ในแง่ของศีลธรรมถ้าเป็นตัวผมเองมีการกระทบกระทั่งกับใคร ไม่ได้มีเจตนา คือ ขอโทษในแง่ของศีลธรรมแต่ในแง่กฎหมาย ก็ว่าไปตามกฎหมาย แสดงว่าตัวเขาเองยึดถือกฎหมายเป็นหลักกว่าศีลธรรมหรือไม่ คิดว่าในมุมมอง ถือว่า กฎหมายเป็นหลักเขาไม่ได้ ทำผิดแต่ในวันนี้เขามาขอโทษกับสังคมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มาเผยแพร่ไปเป็นเรื่องใหญ่โต ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นยอมรับในตัวเขาอย่างน้อยเขาเอง ที่จะไม่ไปยึดตามกฎหมายเกินไป คิดในแง่ถึงศีลธรรมในวันนี้ คิดว่าเขาน่าจะอยู่ในสังคมนี้ต่อไปได้เป็นประสบการณ์ที่หนักหน่วงของเขา



          ด้าน นายสุทัศน์ นิยมไทย ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปางช้าง Green Elephant Sanctuary Park ของ Mr.URS มีทั้งหมด 14 เชือก ส่วนมากเป็นช้างที่เช่ามาด้วย โดยปกติช้าง จะสามารถเช่าได้คือตกลงกันระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่า เมื่อวานได้ไปตรวจในเรื่องใบตั๋ว รูปพรรณในวันนี้จะเข้าไปตรวจสอบเรื่องไมโครชิพของช้าง ยืนยันว่าตรงกันหรือไม่ตัวเดียวกันหรือไม่ กับที่ได้แจ้งไว้



           นายสุธี ศิริอนันต์ จ่าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า มูลนิธิฯ ของMr.URS ชื่อว่า Green Elephant Wildlife Life มูลนิธิเดิมชื่อ Green Elephant ซึ่ง สำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลเชิงทะเล ต่อมา ภายหลัง ได้เปลี่ยนชื่อมูลนิธิ เพิ่มคำว่า Wildlife เข้าไป และเปลี่ยนสถานที่ตั้งจากตำบลเชิงทะเลเป็นตำบลป่าคลอก เป็นที่ทำการของปางช้าง ตามเลขที่ มีการจดทะเบียนเปลี่ยนคณะกรรมการด้วย แก้ไขเข้าบังคับเดิมคนที่ยื่นคำขอจดทะเบียนมูลนิธิเป็น ฝ่ายภรรยา เป็นประธานกรรมการและเปลี่ยนชื่อเข้าไป และฝ่ายต่างชาติเป็นประธานกรรมการแทน แต่ภรรยายังอยู่ ดำเนินกิจการตามวัตถุประสงค์ คือนายทะเบียนรับจดทะเบียน และตรวจสอบว่า ให้มีการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิเพื่อกิจการช่วยเหลือดูแลรักษาเยียวยาช้างที่บาดเจ็บที่ใช้แรงงานดำเนินกิจการช่วยเหลือช้าง ส่วนการดำเนินกิจการปางช้างไม่ได้เกี่ยวกับมูลนิธิฯ ซึ่งมูลนิธิได้จดทะเบียนถูกต้อง



#ฝรั่งตบหมอไทย



 

ข่าวทั้งหมด

X