สภาคองเกรสแห่งสหรัฐฯ ผ่านความเห็นชอบแพ็คเกจการใช้จ่ายระยะสั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการให้หน่วยงานราชการหยุดการทำงานชั่วคราว หรือชัตดาวน์ และเป็นการลงมติเป็นครั้งที่ 4 ในรอบหลายเดือน โดยให้หน่วยงานรัฐบาลกลางชุดหนึ่งดำเนินการจนถึงวันที่ 8 มีนาคม และอีกชุดหนึ่งที่ประกอบไปด้วยกลาโหม ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สุขภาพและบริการมนุษย์ และกระทรวงการต่างประเทศจนถึงวันที่ 22 มีนาคม เพื่อหลีกเลี่ยงการที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางจะต้องปิดทำการบางส่วน (partial government shutdown)
ร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคเดโมแครตจำนวน 207 คน ร่วมกับสมาชิกพรรครีพับลิกัน 113 คน เป็นมติ 320-99 เสียง ซึ่งนาย ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกสภานิติบัญญัติหลายคนคาดหวังว่าจะเป็นการขยายเวลาเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน
จากนั้นในการลงมติของวุฒิสภาซึ่งรีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ที่ประชุมลงมติด้วยคะแนนเสียง 77 ต่อ 13 นาย ชัค ชูเมอร์ ผู้นำวุฒิสภากล่าวว่า มีความยินดีที่จะแจ้งให้ชาวอเมริกันทราบว่าจะไม่มีหน่วยงานของทางการแห่งใด ที่ต้องหยุดการทำงานในวันนี้ (1 มีนาคม 2567)
สำหรับขั้นตอนสุดท้าย คือประธานาธิบดี โจ ไบเดนของสหรัฐฯ จะต้องลงนามในร่างกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ และแม้ว่าปีงบประมาณจะเริ่มต้นในวันที่ 1 ตุลาคม แต่สภาคองเกรสยังไม่ได้อนุมัติร่างกฎหมายการใช้จ่ายประจำปีจำนวน 12 ฉบับที่ประกอบเป็นงบประมาณของรัฐบาลกลาง ซึ่งนายจอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า คณะกรรมาธิการมีการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่าย 6 ฉบับ ส่วนอีก 6 ฉบับใกล้จะได้ข้อตกลงแล้ว
...
#สหรัฐฯ
#ชัตดาวน์