*ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี ของอิตาลี ได้กล่าวหาสมาชิกอื่นๆของยุโรปว่าพยายามจะไม่ใส่ใจต่อปัญหาวิกฤติผู้อพยพในทะเลเมดิเตอเรเนียน หลังหลายชาติปฏิเสธเรื่องโควตาการรับผู้ลี้ภัยให้เข้าไปอาศัยอยู่ในประเทศ ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อาร์เอไอ ทีวี ของอิตาลีในวันนี้ เขากล่าวว่าผู้นำของยุโรปไม่ควรจะพูดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ธุระของเรา อีกต่อไป ขณะเดียวกัน เขาประกาศว่ารัฐบาลอิตาลีจะเก็บกู้ศพผู้อพยพหลายร้อยศพจากเรือลำหนึ่งที่อัปปางเมื่อเดือนก่อน อิตาลีและกรีซพยายามจะหาทางแก้ไขปัญหานี้ หลังมีผู้อพยพลักลอบเข้าเมืองทางเรือจำนวนมาก แต่ฝรั่งเศส สเปนและอังกฤษ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอโควตาการรับผู้อพยพของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) ตามข้อเสนอของคณะกรรมาธิการแห่งยุโรป ผู้ลี้ภัย 20,000 คนจะถูกจัดสรรให้อยู่ในกลุ่มอียูตามโควตา โดยพิจารณาจากขนาดของเศรษฐกิจ ประชากรและอัตราว่างงาน หากเป็นไปตามสัดส่วนดังกล่าว เยอรมนีจะรับผู้อพยพมากที่สุดคือ ร้อยละ 18.4 รองลงมาคือ ฝรั่งเศส ร้อยละ 14 อิตาลี ร้อยละ 11.8 และสเปน ร้อยละ 9 ที่ผ่านมา มีผู้อพยพราว 1,830 คนเสียชีวิตกลางทะเลในปีนี้ขณะพยายามจะเดินทางเรือไปยังอิตาลี นอกจากนั้นอียูได้อนุมัติเมื่อสัปดาห์ก่อนให้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อค้นหาและทำลายเรืออพยพในน่านน้ำของลิเบีย เพื่อป้องปรามไม่ให้เครือข่ายค้ามนุษย์ส่งผู้อพยพไปยังยุโรป
+++หลังการประชุม 3 ฝ่ายระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซียและประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียในวันนี้ โดยอย่างน้อย 2 ประเทศคือ อินโดนีเซียและมาเลเซียตกลงที่จะจัดตั้งที่พักพิงชั่วคราวให้แก่ผู้อพยพ โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาจะต้องหาถิ่นฐานใหม่ภายใน 1 ปีขณะเดียวกันแม้ว่าจะมีส่วนร่วมทำให้ปัญหาวิกฤติครั้งนี้ แต่รัฐบาลเมียนมาร์ ไม่ได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมการหารือในวันนี้ และจะไม่เข้าร่วมการประชุมของกลุ่มอาเซียนที่กรุงเทพฯในวันที่ 29 มิถุนายนนี้ แม้ว่าประเด็นปัญหานี้อยู่ในวาระการประชุมด้วย ที่ผ่านมา เมียนมาร์ไม่ยอมรับชาวโรฮิงญาว่าเป็นพลเมืองและปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการหารือกันตราบเท่าที่มีการใช้ถ้อยคำนั้น
+++รอยเตอร์สรายงานอ้างนายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯว่า เขาจะเยือนเมียนมาร์ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหารือกับรัฐบาลเมียนมาร์เรื่องวิกฤติมนุษย์เรือในทะเลอันดามัน ระบุว่าเขาจะหารือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลในกรุงเนปีดอว์และนครย่างกุ้ง เขากล่าวว่าในที่สุด รัฐบาลเมียนมาร์จะต้องดำเนินมาตรการเพื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือ การหามาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาว และการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ที่ผ่านมารัฐบาลเมียนมาร์ระบุว่าชาวโรฮิงญาเป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายจากบังกลาเทศ พวกเขาไม่มีสิทธิ์มีเสียงใดๆและได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงระหว่างชาวโรฮิงญากับชาวพุทธในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
+++โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุในวันพุธ(20พ.ค.) อเมริกาพร้อมช่วยเหลือเหล่าชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบกรับภาระระลอกคลื่นผู้อพยพที่ลอยลำอยู่กลางทะเล แต่เตือนว่ามันควรเป็นความพยายามของนานาชาติ ไม่ใช่แค่การนำของอเมริกาเพียงลำพังระหว่างการแถลงยินดีต่อการตัดสินใจของมาเลเซียและอินโดนีเซียที่ประกาศหยุดผลักดันผู้อพยพที่แออัดอยู่บนเรืออันง่อนแง่น แมรี ฮาร์ฟ บอกว่าสหรัฐฯจะช่วยหน่วยงานต่างๆของสหประชาชาติจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้อพยพและจะพิจารณาคำร้องขอตั้งรกรากของผู้อพยพบางส่วน
++++นายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล-อบาดีแห่งอิรักเดินทางไปยังกรุงมอสโกเมื่อวันพุธ ) หวังกระชับความร่วมมือทางทหารกับรัสเซีย ในการต่อสู้กับกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) มีกำหนดเข้าพบประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินในวันพฤหัสบดี โดยทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิรักแถลงว่า จุดประสงค์สำคัญของการเยือนรัสเซียครั้งนี้คือ การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ การขยายความร่วมมือทางการทหารและความมั่นคง ตลอดจนขอการสนับสนุนแก่กองทัพอิรักในการเผชิญหน้ากับการก่อการร้าย ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว รัสเซียได้จัดส่งเครื่องบินขับไล่แบบ “Sukhoi” รวมถึงเฮลิคอปเตอร์จู่โจมให้กับรัฐบาลอิรัก เพื่อใช้รับมือภัยคุกคามจากกลุ่มไอเอสที่แผ่ขยายอิทธิพลเข้ายึดครองพื้นที่จำนวนมากในอิรัก
+++สหรัฐฯกำลังทบทวนอย่างเคร่งเครียดต่อยุทธศาสตร์ในอิรัก หลังถูกนักรบรัฐอิสลาม(ไอเอส)ยึดเมืองรามาดี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของวอชิงตันระบุในวันพุธ(20พ.ค.) พร้อมเผยเตรียมจัดส่งระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถัง 1,000 กระบอกแก่แบกแดด เพื่อช่วยกองกำลังความมั่นคงอิรักรับมือกับระเบิดรถยนต์ ฆ่าตัวตาย ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ไอเอสเข้าควบคุมเมืองดังกล่าวได้สำเร็จเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว
+++รายงานว่ากลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) สามารถเข้ายึดครองพื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองมรดกโลกพัลไมร่า ในซีเรียได้แล้ว ขณะที่ทางการได้เร่งขนย้ายโบราณวัตถุหลายร้อยชิ้นไปไว้ในที่ปลอดภัย กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน Syrian Observatory for Human Right รายงานว่ากลุ่มไอเอสสามารถเข้ายึดครองพื้นที่ 1 ใน 3 ของเมืองพัลไมร่าได้สำเร็จ หลังการปะทะกับกองกำลังรัฐบาลซีเรีย แต่ขณะนี้ไอเอสยังไปไม่ถึงแหล่งโบราณสถานที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของพัลไมร่า หัวหน้าหน่วยงานที่ดูแลด้านโบราณสถานและโบราณวัตถุของซีเรียบอกว่า ขณะนี้ได้มีการเคลื่อนย้ายรูปปั้น และโบราณวัตถุหลายร้อยชิ้นออกไปไว้ในสถานที่ปลอดภัยแล้ว เมืองพัลไมร่า เป็นที่รู้จักกันในนามของ “เจ้าสาวแห่งทะเลทราย” โดยข้อมูลจากยูเนสโก ระบุว่า เมืองแห่งนี้มีอายุย้อนกลับไปถึงคริสต์ศตวรรษที่ 1 -2 และเคยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุคโบราณ ด้านนักโบราณคดีแสดงความวิตกว่า หากไอเอสบุกยึดเมืองพัลไมร่าได้สำเร็จก็อาจสร้างความเสียหายเหมือนที่เคยบุกทำลายเมืองโบราณนิมรุด และฮาตราในอิรัก ซึ่งเป็นโบราณสถานก่อนยุคอิสลาม
+++ตำรวจแคนาดาจับกุมเด็กหนุ่มชาวเมืองมอนทรีออล 10 คน ฐานต้องสงสัยว่าต้องการจะเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปเข้าร่วมกับกลุ่มนักรบพลีชีพในต่างแดน การจับกุมมีขึ้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติปิแอร์ อิลเลียต ทรูโดในเมืองมอนทรีอัลเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ตำรวจได้ยึดหนังสือเดินทางของเด็กหนุ่มกลุ่มนั้น พร้อมทั้งพูดคุยกับผู้ปกครองของเด็กหนุ่มกลุ่มนั้นแต่ยังไม่มีการแจ้งข้อหาตำรวจระบุว่าบางคนในกลุ่มนี้มีสายสัมพันธ์กับวัยรุ่นหนุ่ม-สาว 6 คนในรัฐควิเบก ที่ตำรวจเชื่อว่าเดินทางไปยังตุรกีเมื่อช่วงเดือนมกราคม เพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังซีเรีย ในกลุ่ม 6 คนนั้นมีวัยรุ่นหญิง 2 คนจากเมืองลาวาล รัฐควิเบก นับเป็นกรณีล่าสุดที่ชาวตะวันตกถูกล่อลวงให้เดินทางไปยังตะวันออกกลาง เพื่อร่วมการสู้รบกับกลุ่มนักรบพลีชีพ เช่นกลุ่มไอเอส ขณะเดียวกัน นายสตีเวน บลานีย์ รัฐมนตรีความมั่นคงสาธารณะของแคนาดา ได้ประณามกลุ่มไอเอส กรณีการออกแถลงการณ์ข่มขู่เมื่อวันศุกร์ก่อนว่าจะก่อเหตุโจมตีแคนาดาและชาติตะวันตกอื่นๆ
++++นายวูล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนี กล่าวว่า เขาไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่กรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ ท่าทีของนายชอยเบิลถือว่าเปลี่ยนไปจากเดิมในปี 2012 ซึ่งขณะนั้นเขาเคยแสดงความมั่นใจว่ากรีซจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ นายชอยเบิลยังมีจุดยืนที่แข็งกร้าว โดยจะไม่ยอมประนีประนอมในการเจรจากับกรีซเกี่ยวกับการให้เงินช่วยเหลืองวดสุดท้ายจากจำนวนทั้งหมด 2.45 แสนล้านยูโร ซึ่งหากกรีซไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับประเทศเจ้าหนี้ จะทำให้กรีซผิดนัดชำระหนี้จำนวน 1.5 พันล้านยูโรต่อกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันที่ 5 มิ.ย. ด้านนายนิคอส ฟิลิส ประธานรัฐสภากรีซ กล่าวในวันนี้ว่า กรีซจะไม่สามารถชำระหนี้แก่ IMF ในวันที่ 5 มิ.ย. หากไม่มีการบรรลุข้อตกลงกับทางเจ้าหนี้ทั้งนี้ กรีซมีกำหนดชำระหนี้รวม 1.5 พันล้านยูโรต่อ IMF ในเดือนหน้า ขณะที่กรีซกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับสหภาพยุโรป (EU) และ IMF เพื่อหาทางบรรลุข้อตกลง
+++ราคาน้ำมันขยับขึ้น หลังข้อมูลพบคลังเชื้อเพลิงสำรองและกำลังผลิตของสหรัฐฯลด น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ ปิดที่ 58.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯพบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 พฤษภาคม ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่กำลังผลิตก็ลดลง 112,000 ต่อวันเหลือ 9.26 ล้านบาร์เรลต่อวัน
++++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 26.99 จุด ปิดที่ 18,285.40 จุด หลังจากเฟดเผยแพร่รายงาน minutes ประจำการประชุมนโยบายทางการเงินระหว่างวันที่ 28-29 เมษายน ชี้ว่า ยังเร็วเกินไปที่ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้ ส่งผลให้ราคาทองคำเมื่อวันพุธขยับขึ้นเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,208.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
++++น.ส.เอลิกซ์ ทิเชลมัน หญิงขายบริการในเมืองฟอลซัม รัฐแคลิฟอร์เนีย ยอมรับผิดต่อศาลสูงเขต ซานตา ครูซ เคาน์ตี ในการพิจารณาคดีเมื่อวันอังคารที่ 19 พ.ค. ต่อข้อหาทั้ง 6 กระทง ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่เจตนา จากการฉีดเฮโรอีนปริมาณมากจนทำให้นายฟอร์เรสต์ ฮาเยส อดีตผู้บริหารของบริษัท กูเกิล เสียชีวิต ขณะล่องเรือยอชต์ เมื่อเดือนพ.ย. 2013 และศาลตัดสินลงโทษจำคุกเธอเป็นเวลา 6 ปีหญิงขายบริการค่าตัวแพงวัย 28 ปี รายนี้ ไม่ได้ตั้งใจฆ่านายฮาเยส โดยภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า เธอช่วยเขาฉีดยาเสพติด แต่กลับกลายเป็นว่ายามีปริมาณมากเกินไป ทำให้นายฮาเยสล้มลงกับพื้น ในขณะที่ น.ส.ทิเชลมัน ร้องไห้ พยายามตีอกและเรียกชื่อของนายฮาเยสด้วยความตื่นตระหนก ก่อนที่เธอจะเดินไปทั่วห้อง เก็บข้าวของของเธอรวมทั้งเฮโรอีน และเข็มฉีดยา ดื่มไวน์จนหมดแก้วแล้วขว้างแก้วทิ้ง และหลบหนีไป