ผู้นำสว.สหรัฐฯ ชี้ยูเครนอาจแพ้สงครามรัสเซีย หากสหรัฐฯไม่ช่วยเรื่องอาวุธเพิ่มเติม

         สงครามยูเครน-รัสเซียย่างเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายชัก ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต เปิดเผยในกรุงวอชิงตันดี.ซี.หลังกลับมาจากกรุงเคียฟ ยูเครน เพื่อร่วมพิธีรำลึก 2 ปี รัสเซียบุกยูเครน เตือนเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนที่สหรัฐฯจะต้องให้การช่วยเหลือด้านอาวุธเพิ่มเติมสำหรับยูเครน และให้คำมั่นว่าสหรัฐฯจะไม่ทอดทิ้งยูเครน

         นายชูเมอร์ กล่าวว่า ปีนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากในประวัติศาสตร์ของโลก พร้อมเตือนว่า หากยูเครนพ่ายสงครามกับรัสเซีย จะมีผลกระทบร้ายแรงสำหรับสหรัฐฯ ดังนี้ ปี 2024 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสงครามยูเครน-รัสเซีย ขณะเดียวกัน สหรัฐฯจะต้องกลับมาทบทวนศักยภาพของตนเองในการป้องกันตนเอง ตลอดถึงประเมินความเข้มแข็ง บทบาทการเป็นมหาอำนาจและภาวะผู้นำของสหรัฐฯในเวทีโลกด้วย

         นายชูเมอร์ กล่าวว่า ระหว่างการเยือนกรุงเคียฟ เขาให้คำมั่นกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนว่าสหรัฐฯจะไม่ทอดทิ้งยูเครน พร้อมพูดเรื่องความจำเป็นในการช่วยเหลือด้านอาวุธสำหรับยูเครน ขณะเดียวกัน ทางการยูเครนพูดถึงรายละเอียดของอาวุธที่ต้องการเร่งด่วน เช่น กระสุนปืนใหญ่, อาวุธสำหรับโจมตีเครื่องบินรบและอาวุธอื่นๆเพื่อสกัดพาหนะของรัสเซียที่ขนเสบียงอาหารและสัมภาระไปสนับสนุนทหารที่ปฏิบัติภารกิจในสมรภูมิทางภาคตะวันออกของยูเครน

         นายชูเมอร์ ได้ยกตัวอย่างอุปสรรคของยูเครนในการสู้รบกับรัสเซียว่า เขาได้พบเจ้าของบริษัทผลิตโดรนแห่งหนึ่งของยูเครน ซึ่งระบุว่า ทีมงานของเขาสามารถมองเห็นปืนใหญ่ที่ยิงมาจากฝั่งกองทัพรัสเซีย แต่ยูเครนขาดแคลนกระสุนและอาวุธต่างๆทำให้ไม่อาจจะยิงสกัดอาวุธจากรัสเซีย นอกจากนั้น กองทัพรัสเซีย สามารถยิงปืนใหญ่ในระยะไกลกว่า เมื่อเทียบกับศักยภาพของปืนใหญ่ที่กองทัพบกยูเครนใช้อยู่ในปัจจุบันซึ่งมีพิสัยการยิงระยะใกล้ ทำให้ยูเครนอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบ ไม่อาจจะโต้กลับยังค่ายทหารรัสเซียในยูเครน

         ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกันถูกหลายฝ่ายกดดันให้บรรจุร่างกฎหมายงบประมาณสำหรับจัดซื้ออาวุธเพิ่มเติมมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์เข้าสู่วาระการพิจารณาและลงมติของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หลังผ่านการลงมติจากที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐฯเมื่อเร็วๆนี้ แต่ดูเหมือนว่านายจอห์นสันยังไม่ฟังเสียงทักท้วงจากบุคคลภายนอก ยังไม่ยอมบรรจุร่างกฎหมายนี้เข้าสู่วาระการประชุมของสส.แม้ว่า เสี่ยงเกิดกระแสต่อต้านประธานสภาฯภายในพรรครีพับลิกันเองและกระแสเรียกร้องให้เขาลาออกก็ตาม

#สงครามยูเครน