หลังทหารกองทัพภาค สามเหลี่ยมร่วมกับตำรวจเมียนมา ได้บุกเข้าปราบปรามบ่อนการพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน จ.ท่าขี้เหล็ก จับกุมผู้ต้องหากลุ่มใหญ่ รวมประมาณ 700 คน ในจำนวนนี้เป็นคนจีน 1 คน คนไทยที่ส่วนใหญ่เข้าไปทำงานเป็นแอดมินบ่อนออนไลน์ จำนวน 148 คน ที่เหลือเป็นชาวเมียนมา เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ล่าสุดทั้งหมดยังคงถูกควบคุมตัวเอาไว้ใน จ.ท่าขี้เหล็ก โดยบางส่วนสามารถติดต่อทางโทรศัพท์กับญาติได้แล้ว
ขณะที่สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานสถานการณ์ว่า ทางการเมียนมาแจ้งว่าจะอนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้เฉพาะผู้ถูกจับกุมชาวเมียนมาเท่านั้น ส่วนชาวไทยและจีนไม่อนุญาต เนื่องจากเจ้าหน้าที่เมียนมายังต้องมีการสอบปากคำทุกคนคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 3 สัปดาห์จึงจะเสร็จ จากนั้นจะมีการนำส่งฟ้องศาล จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อตัดสินในคดีความต่างๆ
เบื้องต้นคาดว่า อาจจะมีผู้ถูกดำเนินคดีข้อหาเข้าประเทศเมียนมาโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะผู้เข้าพักตามห้องพักโรงแรมต่างๆ จะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบว่ามีไกด์นำเที่ยว แต่ปรากฏว่า คนไทยเกือบทั้งหมดได้เดินทางไปทำงานและเข้าพักตามที่นายจ้างจัดให้โดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ หรือบางคนไปหาที่พักด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ยังจะต้องมีการสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอื่นๆ โดยเฉพาะบ่อนการพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่อีกด้วย ทั้งนี้เมื่อส่งฟ้องศาลจนมีคำตัดสินแล้วจะมีการดำเนินการตามกฎหมายก่อนส่งกลับประเทศไทยต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าการบุกจู่โจมเข้ากวาดล้างบ่อนการพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากทางการจีนร่วมกับเขตปกครองตนเองโกกั้ง และเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ได้ปราบปรามแก๊งเหล่านี้อย่างหนัก
ส่วนจ.ท่าขี้เหล็ก พบว่ามีกิจการบ่อนการพนันออนไลน์อยู่เป็นจำนวนมากดำเนินการโดยกลุ่มจีนเทาและใช้ลูกจ้างซึ่งส่วนหนึ่งเป็นคนไทยที่ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว หรือ บอเดอร์พาสข้ามไปทำงานโดยฝากรถเอาไว้ในจุดรับฝากตามชายแดน อ.แม่สาย ทำให้กองทัพภาคสามเหลี่ยมซึ่งมีกองบัญชาการอยู่ที่ จ.เชียงตุง และดูแลพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก นำกำลังบุกเข้าปราบปรามแบบไม่ทันตั้งตัวดังกล่าว อย่างไรก็ตามพบว่าปฏิบัติการครั้งนี้มีคนจีนถูกจับแค่ 1 คน ที่เหลือเป็นชาวเมียนมา 540 คน และชาวไทย 148 คน
#เมียนมากวาดล้าง
#บ่อนพนันคอลเซนเตอร์