สหรัฐฯ ประกาศมาตรการลงโทษชุดใหม่ต่อบุคคลและองค์กรมากกว่า 600 รายฐานให้การสนับสนุนรัสเซียทำสงครามรุกรานยูเครนเป็นเวลา 2 ปี และเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายอเล็กเซ นาวาลนี ผู้นำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลรัสเซีย
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกมาตรการลงโทษบุคคลและองค์กรในรัสเซียเกือบ 300 รายชื่อ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาตรการลงโทษบุคคลและองค์กรในรัสเซียมากกว่า 250 รายชื่อ และ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำบริษัทกว่า 90 แห่งในรัสเซีย จีน ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวียตนาม และลิกเตนสไตน์ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับกองทัพรัสเซีย
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่ามาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียต้องชดใช้จากการรุกรานต่างประเทศและการปราบปรามผู้เห็นต่างในประเทศ
มาตรการลงโทษชุดใหม่ของสหรัฐฯ มุ่งเป้าไปในที่ระบบธุรกรรมการเงินหลักของรัสเซีย ที่ชื่อว่า เมียร์ (Mir) สถาบันการเงิน อุตสาหกรรมการทหาร ภาคพลังงาน รวมถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายนาวาลนี
จากแพ็คเกจมาตรการรอบล่าสุดนี้ ทำให้มีบุคคลหรือหน่วยงานที่ถูกสหรัฐฯขึ้นบัญชีแล้วมากกว่า 4,000 ราย
ส่วนสหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งที่ 13 โดยมีเป้าหมายคือบุคคลและบริษัทเกือบ 200 ราย ซึ่งให้ความช่วยเหลือรัสเซียจัดหาอาวุธ หรือเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวเด็กชาวยูเครน กับมีบุคคลและบริษัทเกือบ 10 แห่งที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งอาวุธของเกาหลีเหนือไปยังรัสเซีย นาย โจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวว่า ยุโรปมีความมุ่งมั่นที่จะทำลายความสามารถในการทำสงครามของรัสเซีย และช่วยให้ยูเครนเป็นในฝ่ายชนะในการป้องกันตนเอง ซึ่งจนถึงขณะนี้สหภาพยุโรปได้ขึ้นบัญชีดำบุคคลและบริษัทมากกว่า 2,000 รายแล้วนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น
เพื่อเป็นการตอบโต้ กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้เพิ่มรายชื่อเจ้าหน้าที่และนักการเมืองของสหภาพยุโรปที่ถูกสั่งห้ามเข้ารัสเซีย
นักวิเคราะห์ เห็นว่า มาตรการลงโทษเหล่านี้ไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ตกอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรมากที่สุดในโลกอยู่แล้ว ภาคการธนาคาร และอุตสาหกรรมการทหารมีการปรับตัว และแก้ไขปัญหาเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรที่มีอยู่
เมื่อเดือนที่แล้ว (ม.ค.67) ประธานาธิบดีปูติน กล่าวในระหว่างการเดินทางเยือนภูมิภาคห่างไกลอย่างชูคอตกา ว่าชาติตะวันตกพึ่งพารัสเซีย มากกว่ารัสเซียพึ่งพาพวกเขา ส่วนนายอนาโตลี อันโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความผ่านบัญชีเทเลแกรมของสถานทูตรัสเซียในสหรัฐฯ ว่า “รัฐบาลวอชิงตันไม่เข้าใจหรือว่ามาตรการลงโทษเหล่านี้ไม่อาจจัดการเราได้?”
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์เมื่อเดือนมกราคม (2567) ว่า ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของรัสเซีย จะเติบโตร้อยละ 2.6 ในปี 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมในเดือนตุลาคมปีก่อนราวร้อยละ 1.5 หลังจากเศรษฐกิจรัสเซียเติบโตระดับร้อยละ 3 ในปี 2566
...
#เศรษฐกิจรัสเซีย #สหรัฐฯ #ยูเครน