กระทรวงพาณิชย์ เผยมูลค่าส่งออกไทยเดือนม.ค. อยู่ที่ 22,649 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ10 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 18 เดือน นับตั้งแต่มิ.ย.65 ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 25,407ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ในเดือนม.ค. ไทยขาดดุลการค้า 2,757 ล้านเหรียญสหรัฐ
หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 9.2 การส่งออกของไทยยังขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับหลาย ๆ ประเทศในเอเชีย ตามทิศทางการค้าโลกที่เริ่มฟื้นตัวจากภาวะเงินเฟ้อ
แนวโน้มการส่งออกในปี 2567 การส่งออกไทยยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าตามภาวะเงินเฟ้อโลกที่เริ่มชะลอตัว การได้รับอานิสงส์จากมาตรการรักษาความมั่นคงทางด้านอาหารของหลายประเทศ และจากความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคที่มีความเข้มแข็ง ขณะที่ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางยังไม่ส่งผลกระทบทางตรงต่อไทยมากนัก อย่างไรก็ตาม อุปสรรคการขนส่งที่เกิดจากความขัดแย้งดังกล่าว ส่งผลในทางอ้อมทำให้อัตราค่าระวางเรือเพิ่มสูงขึ้น และอาจทำให้เศรษฐกิจคู่ค้ามีความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนอาจจะยังมีความผันผวน จากทิศทางการปรับเปลี่ยนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้มีการติดตามประเด็นสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการทำงานในการผลักดันการเติบโตของมูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2567 ที่ร้อยละ 1 – 2 ต่อไป
เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.10 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 35.94 บาท/ดอลลาร์ ตามทิศทางสกุลเงินอื่นในภูมิภาค ในวันที่ไร้ไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาชี้นำตลาด หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค. ที่พบว่าขาดดุลการค้าถึง 2.7 พันล้านดอลลาร์ ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงไปบ้าง และในช่วงบ่ายก็อ่อนค่าต่อเนื่อง จากแรงซื้อดอลลาร์ ซึ่งเป็นการอ่อนค่าทั้งภูมิภาค
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,398.14 จุด ลดลง 4.33 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,385.71 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,831.55 ล้านบาท
#ส่งออกไทย
#เงินบาทอ่อนค่า