หลัง พล.ต.อ.
ส่วนเรื่องพยานหลักฐานเส้นทางการเงินที่พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ปฏิเสธว่าไม่มีมาถึงตัวเองนั้น ยืนยันว่าตำรวจมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน เนื่องจากในระหว่างการเข้าจับกุม คณะชุดสืบสวนสอบสวนกว่า 200 นาย ซึ่งขณะนี้ถูกพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ฟ้องร้องดำเนินคดี ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีดังกล่าวอย่างละเอียด ตั้งแต่วันเข้าจับกุมวันแรก ซึ่งหลักฐานที่ตรวจยึดได้มีการจดข้อมูลไว้ชัดเจนว่ามีการใช้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวอย่างไร ได้รับมาจากใครบ้าง และมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงนายตำรวจระดับสูง
ส่วนตัวเชื่อว่าหากคดีดังกล่าว
สำหรับการแจ้งข้อหาในมาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ และมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจได้แจ้งความข้อหาดังกล่าวกับคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวนในคดีนี้แล้ว และได้ส่งสำนวนการสืบสวนสอบสวนไปให้
ส่วนประเด็นที่อัยการสั่งสอบเพิ่มใน 7 ประเด็น ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ทำสำนวนไม่ดีจนอัยการต้องสั่งให้สอบเพิ่มใน 7 ประเด็น เรื่องนี้ เกิดจากความไม่มั่นใจในข้อกฎหมายว่าตำรวจสามารถสอบปากคำพลตำรวจนายดังกล่าวใน 7 ประเด็น ซึ่งเคยสอบปากคำในสำนวนแรกได้หรือไม่ จึงส่งเรื่องให้อัยการสั่งให้ตำรวจที่ทำคดีสอบเพิ่มเองเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในข้อกฎหมาย ไม่ใช่การทำสำนวนไม่รู้เรื่อง ส่วนที่มีการกล่าวว่าศาลไม่ได้ถือสำนวนเป็นหลัก แต่เชื่อถือข้อมูลของ
ส่วนประเด็นที่พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ท้าให้พล.ต.อ. ที่ดูแลคดีดังกล่าวออกมาพูด แทนที่จะส่งตนเอง ซึ่งเป็นตำรวจยศพล.ต.ต. มาพูดแทน ประเด็นนี้ พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะดูแลงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงานในคดีดังกล่าวไม่ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพราะต้องการให้ข้อมูลออกมาในทิศทางเดียวกัน จึงได้ลงมติในที่ประชุมเมื่อวันอังคาร(20 ก.พ.) ให้ตนเองเป็นโฆษกในคดีนี้ ไม่ใช่เป็นการหลบหน้า
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ย้ำว่า คณะทำงานชุดนี้ พล.ต.อ.
ขณะเดียวกันวันนี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ หนึ่งในคนที่ถูกพล.ต.อ. สุรเชษฐ์และมินนี่ฟ้องถึง 7 คดี มาพบพล.ต.ต. จรูญเกียรติ ด้วย ซึ่งนายอัจฉริยะยืนยันว่าตนและตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าพล.ต.อ.นายหนึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ
นอกจากนี้ยังมีหนึ่งในผู้ต้องหาของคดีดังกล่าวติดต่อมาเพื่อขอไกล่เกลี่ยคดี ซึ่งได้ปฏิเสธไป พร้อมท้าให้ไปสาบานที่วัดหงษ์ จังหวัดบุรีรัมย์ ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับ
มีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังการแถลงข่าวของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ทีระบุว่า จะมีการแจ้งความกลับเอาผิด ม.157 กับนายตำรวจระดับ พล.ต.อ.ในวันนี้ ล่าสุดมีการยืนยันจากเอกสารประทับรับฟ้องในคดีอาญาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ลงวันที่ 22 ก.พ.2567 แล้ว โดย พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ หนึ่งในนายตำรวจใกล้ชิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ในข้อหาหรือฐานความผิด ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 แล้ว
#เว็บพนันออนไลน์
#หลักฐานมัด
#ตำรวจชั้นผู้ใหญ่