มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับลดคาดการณ์การส่งออกของไทยปี 67 ลงมาเหลือเติบโตร้อยละ 2.5จากเดิมเคยคาดว่าจะเติบโตได้ราว 3% เนื่องจาก ขณะนี้มองว่าช่วงครึ่งปีหลังยังมีความเสี่ยงจากเงินบาทที่มีแนวโน้มกลับมาแข็งค่าขึ้นจากที่อ่อนค่าลงไปมากในช่วงต้นปี นอกจากนี้ เหตุการณ์โจมตีเรือขนส่งสินค้าของกบฏฮูตีในบริเวณทะเลแดง (คลองสุเอซ) ยังคงยืดเยื้อส่งผลให้ค่าระวางเรือเพิ่มสูงขึ้น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงมีข้อจำกัดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งนี้ ประเมินว่าการส่งออกในปี 67 จะมีมูลค่า 291,676ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 2.5% หรืออยู่ในช่วง2-3% หรือมีมูลค่า 290,253 ถึง 293,099 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์เศรษฐกิจไทยสำหรับปี 67 เติบโตที่ร้อยละ2.6 ปรับลดจากร้อยละ 3.1 ที่ประเมินก่อนหน้า เนื่องจากโมเมนตัมในการใช้จ่ายภาคเอกชนที่ชะลอตัว ตามมาตรการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐที่ลดลง ประกอบกับฐานที่อยู่ในระดับสูงของปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ความล่าช้าในการอนุมัติงบประมาณปี 2567 ก็อาจกระทบให้การใช้จ่ายด้านการลงทุนของภาครัฐเป็นไปได้ไม่เต็มที่ ขณะที่ ปัจจัยภายนอกประเทศ ก็ยังมีอีกหลายความเสี่ยง อาทิ การชะลอของเศรษฐกิจโลก และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี 67 คาดว่าจะทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ถึงแม้ว่ายังไม่มีการอนุมัติงบประมาณปี 2567 แต่มีความเป็นไปได้ที่ภาครัฐจะเร่งเบิกจ่ายเม็ดเงินของงบประมาณประจำปี 2566 ที่เหลืออยู่ ซึ่งคงส่งผลให้การใช้จ่ายภาครัฐไม่หดตัวรุนแรงอย่างเช่นในไตรมาสก่อนหน้า (Q4/66) ขณะที่ การส่งออกไทย ก็คาดว่าจะทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น แม้ความขัดแย้งในทะเลแดง จะกระทบต่อต้นทุนและระยะเวลาการขนส่งสินค้า
#ส่งออก
#เศรษฐกิจไทย