สถาบันวิจัยในเยอรมนี แนะสหภาพยุโรปเพิ่มความช่วยเหลือยูเครนเป็น 2 เท่า

          สถาบันคีลในเยอรมนี แนะนำให้สหภาพยุโรปเพิ่มการสนับสนุนทางทหารต่อยูเครนเป็น 2 เท่าเพื่อเติมเต็มช่องว่างของสหรัฐฯ ที่ถูกรัฐสภาขัดขวางความช่วยเหลือชุดใหม่มูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังไม่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ จะส่งความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมในปีนี้หรือไม่

          ในรายงานเกี่ยวกับสถานะของการช่วยเหลือทางทหาร การเงิน และด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2567 สหรัฐฯ ส่งความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนแล้วจำนวน 42,200 ล้านยูโร (ประมาณ 1,600,000 ล้านบาท)

          ส่วนสหภาพยุโรปและสมาชิก 27 ประเทศให้สัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือทางทหารจำนวน 49,700 ล้านยูโร ( ประมาณ 1,930,000 ล้านบาท) นับตั้งแต่เริ่มสงคราม แต่ได้ส่งมอบหรือจัดสรรไว้เพียง 35,200 ล้านยูโร (1,366,000 ล้านบาท)

          นายคริสตอฟ เทรเบช หัวหน้าฝ่ายติดตามการสนับสนุนยูเครนและผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของสถาบันคีล กล่าวว่า ยุโรปจะต้องเพิ่มการสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนอีกอย่างน้อย 2 เท่าในปัจจุบัน ในกรณีที่ไม่มีการสนับสนุนเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความท้าทาย และเป็นไปตามเจตจำนงทางการเมือง ประเทศในสหภาพยุโรปเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่จนถึงตอนนี้ใช้เงินไม่ถึงร้อยละ 1 ของ GDP ปี 2564 เพื่อสนับสนุนยูเครน

          ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ยูเครนได้ขอการสนับสนุนทางการเงินจำนวน 265,100 ล้านยูโร (ประมาณ 10 ล้านล้านบาท)โดยมีสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกเป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดด้วยเงิน 144,100 ล้านยูโร (ประมาณ 5,500,000 ล้านบาท) รองลงมาคือสหรัฐอเมริกา 67,700 ล้านยูโร และสหราชอาณาจักร 15,700 ล้านยูโร (609,000 ล้านบาท)

          การหยุดชะงักความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ต่อยูเครนเกิดขึ้นในห้วงเวลาที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปีนี้กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนที่ดีในการลงสมัครชิงตำแหน่งพรรครีพับลิกัน มีนโยบายต่อต้านการช่วยเหลือยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซีย ทั้งให้คำมั่นว่าจะถอนร่างกฎหมายปฏิรูปชายแดนของสหรัฐฯ ที่จะอนุมัติความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ยูเครนด้วย ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากนายทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดีในปี 2568 อาจหมายถึงการที่สหรัฐฯ ยุติความช่วยเหลือต่อยูเครน

          ขณะเดียวกันภายในกลุ่มสหภาพยุโรปยังมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความช่วยเหลือยูเครน นายวิกเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี ใช้อำนาจยับยั้งความช่วยเหลือยูเครนเพิ่มเติม 50,000 ล้านยูโรในช่วง 4 ปี ส่วนในสโลวาเกีย นายโรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ปฏิบัติตามคำสัญญาที่ให้ไว้ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ยับยั้งการส่งมอบอาวุธที่ประธานาธิบดีคนก่อนเห็นชอบไว้

...

#สหภาพยุโรป

#ยูเครน

#สหรัฐอเมริกา