*ตั้งคุรุจิต นั่งปลัดก.พลังงาน ย้าย2 ปลัดICT-ก.ทรัพยฯไปสำนักนายกฯ*

หลังการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.  พล.ต.สรรเสริญ แก้วกําเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งนายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ และมีคำสั่งโยกย้ายข้าราชการ คือ นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์  ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางเมธินี เทพมณี  ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ด้านการสร้างความเข้าใจในการร่างรัฐธรรมนูญ นั้น  รัฐบาลได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนีมาให้ความเห็นและข้อเสนอแนะหลังจาก ครม.มีมติให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เพื่อเปิดทางให้มีการทำประชามติ พล.ต.สรรเสริญ ระบุว่า จะมีการเชิญศาสตราจารย์ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมาให้มุมมอง ความรู้ ในเรื่องประชาธิปไตยของโลก โดยจะมาจากฝรั่งเศส 2 คน เยอรมนี 1คน  โดยคนแรก คือ ศาสตราจารย์ โดมินิก รุสโซ่ ผู้เชี่ยวชาญจากฝรั่งเศส จะมาเล่ามุมมองเกี่ยวกับประวัติศาสตร์รัฐธรรมนูญของในหลายๆประเทศที่ประสบความสำเร็จในวันที่ 22พ.ค.นี้ เวลา 13:00น.  ส่วนศาสตราจารย์ มิเชล โทเปอร์ ผู้เชี่ยวชาญจากฝรั่งเศษเช่นกัน จะมาบรรยายวันที่ 26พ.ค.  จากนั้น จะเป็น ศาสตราจารย์อูริก คาร์เก้น ผู้เชี่ยวชาญจากเยอรมัน จะมาให้ข้อมูลในวันที่ 27พ.ค. ซึ่งการเล่ามุมมองของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญทั้ง 3คนนี้จะเปิดให้สื่อมวลชน เข้าฟัง รวมถึงจะมีการบันทึกเทปเพื่อเปิดให้ประชาชนได้รับชมด้วย

ในที่ประชุมร่วม ครม. และ คสช.ในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้พูดให้ทุกคนรับทราบเป้าหมายร่วมกันระหว่าง ครม. และ คสช.เพื่อทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า คือ การักษาความมั่นคงภายในประเทศไม่ให้เกิดความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ,การทำงานของแต่ละกระทรวง ทบวง กรม จะต้องขับเคลื่อนไปตามแผนงานเพื่อวางแผนไปในอนาคต และควรแก้ไขผลักดันกฎหมายที่ยังติดขัดอยู่ เพื่อให้ลดความเลื้อมล้ำ

ส่วนการดำเนินการในเรื่องกฎหมายของรัฐบาลที่ผ่านมานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  ฝ่ายกฎหมาย ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่ามีการนำกฎหมายที่เข้าสู่สภาแล้ว 110ฉบับ ซึ่งกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบ หรือ อยู่ในขั้นรอการประกาศใช้มีแล้ว 84ฉบับ แต่ยังคงมี 26ฉบับที่ยังอยู่ในการพิจารณาชองสภา ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายของ ครม.และ คสช.ในการผลักดันกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม  ซึ่งกฎหมายบางฉบับรัฐบาลก่อนหน้านี้ก็ไม่กล้าผลักดันได้สำเร็จ