มสส.-สสสย. ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาล 'คิดให้ดี' ขยายเวลาเปิดร้านเหล้า ได้ไม่คุ้มเสีย!

12 กุมภาพันธ์ 2567, 19:24น.


          การเปิดเวทีระดมความคิดเห็นของสื่อมวลชนโดยมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.)ร่วมกับเครือข่ายสื่อมวลชนขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อสังคมไทยยั่งยืน (สสสย.) เรื่องปัญหาจากนโยบายการขยายเวลาจำหน่ายสุรา ในพื้นที่ 5 จังหวัดซึ่งจะมีการเปิดทบทวนนโยบายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงของเครือข่ายในการป้องกันภัยแอลกอฮอล์มาจับประเด็นพูดคุยกันหลากหลายแง่มุม ที่คิดยังไงก็ได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน



          นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ เชื่อว่า เป็นความพยายามผลักดันนโยบายเพื่อเพิ่มยอดขายจากผู้จำหน่ายสุรารายใหญ่ ทุนหนา จากต่างประเทศ พร้อมกับได้ยกตัวอย่างของเหยื่อเมาแล้วขับที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ที่เมาแล้วขับโดยเน้นว่า เหยื่อมักเป็นผู้ที่ด้อยโอกาสทางสังคมอยู่แล้ว ยังโดนซ้ำเติมด้วยคนเมาแล้วขับอีก



          ด้าน รศ.ดร.นพ.อุดมศักดิ์ แซ่โง้ว ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาการสุขภาพมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เปิดข้อมูลงานวิจัยจากต่างประเทศ ส่วนมากพบว่าเมืองที่มีการขยายเวลาจำหน่ายสุราจะเพิ่มการเกิดอุบัติเหตุถึงร้อยละ15-30  และที่ผ่านมา นับตั้งแต่มี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 พบว่า สัดส่วนของนักดื่มลดลง อัตราการเพิ่มของดารบริโภคแอลกอฮอล์ลดลง พร้อมสัดส่วนการเกิดอุบัติที่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ก็ลดลงด้วย ขณะที่มาตรการจำกัดการขาย กลับถูกชวนเชื่อว่า เป็นการใช้อำนาจควบคุมประชาชน เป็นอุปสรรคต่อการหารายได้ของประชาชน





          หลังสิ้นสุดเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลประธานเครือข่ายสื่อมวลชนขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อสังคมไทยยั่งยืน (สสสย.) คุณศักดา แซ่เอียว ได้อ่านจดหมายเหตุเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ให้ทบทวนการออกนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์โดยอ้างอิงข้อมูลข้อเท็จจริงจากงานวิจัยโดยพิจารณาอย่างรอบด้านไม่ใช่เน้นแต่ตัวเลขทางเศรษฐกิจมิติเดียว โดยระบุว่า แม้รัฐบาลจะมีมาตรการกำหนดให้สถานบริการวัดแอลกอฮอล์ลูกค้าหากเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต้องจัดที่พักคอย หรือหาคนขับรถแทนหรือหารถส่งลูกค้าก็ตาม นอกจากนี้หากศึกษางานวิจัยจากหลายประเทศที่มีการขยายเวลาเปิดสถานบริการก็พบว่า



-ประเทศออสเตรเลียมีการทำร้ายร่างกายเพิ่มขึ้น จำนวนอุบัติทางถนนเพิ่มขึ้น หรือ



-ประเทศนอร์เวย์ข้อมูลจาก 18 เมืองที่ขยายเวลาเพิ่ม 1 ชั่วโมงมีการทำร้ายร่างกายเพิ่มร้อยละ 16  และ



-ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ เมืองอัมสเตอร์ดัม ขยายเวลาเพิ่มขึ้น 2 ชั่วโมงพบว่า การขยายเวลาเพิ่มขึ้นแต่ละชั่วโมงจะเพิ่มอุบัติเหตุที่สัมพันธ์กับการดื่มแอลกอฮอล์สูงขึ้นร้อยละ 34  





           ล่าสุดรัฐบาลไทย คิดจะขยายเวลาและขยายพื้นที่ในการเปิดสถานบริการมากขึ้นทั้งๆที่ยังไม่ถึง 3 เดือน ซ้ำยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าผลดีผลเสียเป็นอย่างไร เราเห็นว่ารัฐบาลควรจะรอผลการศึกษาข้อดี ข้อเสียและผลกระทบที่เกิดขึ้นซึ่งมีสถาบันวิชาการกำลังศึกษาในเรื่องดังกล่าวและจะมีผลสรุปในเดือนมีนาคม 2567 นี้แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อหรือควรจะยุตินโยบายดังกล่าว



          นอกจากนั้น ยังมองว่า ข้อเรียกร้องครั้งนี้ ไปถึงนายกรัฐมนตรีของธุรกิจแอลกอฮอล์และความพยายามของพรรคการเมืองให้ยกเลิกความในมาตรา 28 ห้ามมิให้ผู้ใดขาย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันหรือเวลาที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ซึ่งมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องการกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ.2558 ที่ระบุว่า ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาอื่น นอกจากตั้งแต่เวลา 11.00 -14.00 น.และ17.00-24.00น. ถ้ายกเลิกข้อห้ามดังกล่าวจะทำให้ขายแอลกอฮอล์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งๆที่ปัจจุบันมีจุดขายแอลกอฮอล์ทั่วประเทศถึง 580,000 แห่งอยู่แล้ว รัฐบาลควรจะต้องย้อนกลับไปศึกษาถึงเจตนารมณ์ในการกำหนดเวลาห้ามขายว่าเป็นการป้องกันการเข้าถึงแอลกอฮอล์ทุกเวลาโดยเฉพาะเด็ก เยาวชนและสตรี  ลำพังกำหนดเวลาห้ามขายที่มีอยู่แล้วก็ยังมีการลักลอบหรือแอบขายอยู่ ตลอดเวลา โดยเฉพาะร้านเล็กๆในชุมชุนหรือร้านโชห่วย  ทางที่ดีรัฐบาลควรกำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่น่าจะดีกว่า



          การเสนอร่างกฎหมายของพรรคการเมืองต่างๆในการแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  พ.ศ.2551 มาตรา  32 เพื่อยกเลิกการห้ามผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม ซึ่งการโฆษณาหมายรวมถึง การกระทำไม่ว่าโดยวิธีใดๆให้ประชาชนเห็น ได้ยินหรือทราบข้อความเพื่อประโยชน์ในทางการค้าและให้หมายรวมถึงการสื่อสารการตลลาดด้วยเพื่อให้มีการโฆษณาได้นั้น  รัฐบาล พรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ควรคิดใคร่ครวญเรื่องนี้ใหม่อย่างจริงจัง เพราะการห้ามโฆษณาเป็นสิ่งที่มีข้อพิสูจน์จากองค์การอนามัยโลกว่า เป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยป้องกันการเข้าถึงแอลกอฮอล์ได้อย่างมีนัยสำคัญ หากการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาก็จะยิ่งเป็นการจูงใจ ให้ให้เด็ก เยาวชน สตรี เข้าถึงแอลกอฮอล์ได้ง่ายขึ้น



          นอกจากนั้น ยังเห็นว่า การดำเนินนโยบายต่างๆของรัฐบาลควรจะต้องคำนึงถึงการปฏิบัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 58 ที่กำหนดให้การดำเนินการใดๆของรัฐหรือที่รัฐจะอนุญาตให้ผู้ใดดำเนินการถ้าการนั้นอาจมีผลกระทบต่อธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิตของประชาชน รัฐต้องดำเนินการให้มีการศึกษาและประเมินผลกระทบและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการหรืออนุญาตตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่ง สสสย.เห็นว่า ทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าวยังไม่ได้ดำเนินการอย่างครบถ้วน



          ส่งผลในเวทีระดมความเห็น ในวันนี้ จึงตั้งคำถามไปยัง  นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีและพรรคเมืองต่างๆว่า ได้คิดถึงผลกระทบทางสังคมที่ตามมาทั้งเรื่องความรุนแรงจากคดีอาชญากรรม ความสูญเสียจากอุบัติเหตุซึ่งจะมีผลกระทบไปถึงสถาบันครอบครัวที่อาจสูญเสียเสาหลักจากอุบัติเหตุดื่มแล้วขับ หรือการที่เด็กและเยาวชนอาจเข้าไปมั่วสุมในสถานบันเทิงทั้งๆที่อายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนดหรือยัง 



          การแสดงจุดยืนในการปกป้องเด็กและเยาวชนรวมทั้งสถาบันครอบครัวจึงเป็นสิ่งสังคมคาดหวังจากผู้แทนของประชาชน ไม่อย่างนั้นจะถูกสังคมติฉินได้ว่า คิดแต่เรื่องเศรษฐกิจเพียงมิติเดียวและคิดแต่จะเอาใจแต่ธุรกิจรายใหญ่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น



 



#ขยายเวลาขายเหล้า



#ได้ไม่คุมเสีย

ข่าวทั้งหมด

X