หลังพนักงานอัยการยื่นฟ้อง นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทายาทตระกูลธุรกิจสีทีโอเอ เป็นจำเลยในคดีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยศาลพิจารณาคำร้องอัยการโจทก์เเล้ว มีคำสั่งประทับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.441/2567 สอบคำให้การ จำเลยให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี จึงให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ โดยจำเลยยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีลักษณะเป็นการสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน และมีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก โจทก์คัดค้านการปล่อยชั่วคราวจึงไม่อนุญาต เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำตัวจำเลยไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯระหว่างพิจารณาคดี
ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอควบคุมตัว นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทายาทตระกูลดัง ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดฐานเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทกระทำโดยทุจริต ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา 89/7 จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว,ในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการบริษัทย่อยและผู้บริหารบริษัทย่อย, กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พ.ร.บ.นี้ โดยทุจริต ร่วมกันหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควร บอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ, กรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พ.ร.บ.นี้ กระทำหรือยินยอมให้กระทำ
1.ทำให้เสียหาย ทำลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชีเอกสาร หรือหลักประกันของนิติบุคคลดังกล่าว หรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลดังกล่าว
2.ลงข้อความเท็จหรือไม่ลงข้อความสำคัญในบัญชีหรือเอกสารของนิติบุคคลหรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลนั้น หรือ
3.ทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบันหรือไม่ตรงต่อความเป็นจริงถ้ากระทำหรือยินยอมให้กระทำเพื่อลวงให้นิติบุคคลดังกล่าวหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้หรือลวงบุคคลใดๆ,ร่วมกันโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 41, 343 ในคดีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาส่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษตามหนังสือด่วนที่สุด ของสำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษขอให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหา มาส่งตัวฟ้องศาล
สำหรับนายวนรัชต์ที่ถูกคุมตัวมาวันนี้ มาโดยรถโรงพยาบาลมีอาการป่วยซีดเซียว ต้องนั่งรถเข็น โดยพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ไปขอศาลออกหมายจับ หลังจากวันที่ 9 ก.พ.นายวนรัชต์ ไม่เดินทางไปรับทราบคำสั่งอัยการ ดีเอสไอจึงต้องไปขอศาลออกหมายจับ โดยพบว่า นายวนรัชต์ ได้เข้ารับการรักษาโรคหัวใจด้วยการทำ “บอลลูนหัวใจ” ดีเอสไอ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของ นายวนรัชต์ ที่โรงพยาบาลแล้ว เหตุหวั่นรักษาหายแล้วหลบหนี หากนายวนรัชต์ มีอาการดีขึ้น จะนำตัวไปส่งอัยการเพื่อฟ้อง ในคดีดังกล่าว
#คดีทุจริตหุ้นสตาร์ค
#ศาลไม่ให้ประกันตัว