ศาลฎีกานัดตรวจคำร้องคดีอดีตนายกรัฐมนตรีทุจริตจำนำข้าว21,28ก.ค.ยื่นประกัน30ลบ.ห้ามออกนอกประเทศ

19 พฤษภาคม 2558, 11:55น.


ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ อม.22/2558 ระหว่างอัยการสูงสุด โจทก์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเลย เรื่องความผิดต่อหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 (ทุจริตจำนำข้าว)   ซึ่งหลังจากที่ศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฟัง และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนยันให้การปฏิเสธตามคำให้การฉบับลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 ส่วนคำให้การสมบูรณ์จะยื่นในวันที่ 3 กรกฎาคม 2558 ซึ่งศาลอนุญาต และมีคำสั่งให้นัดตรวจพยานหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่ายในวันที่ 21 กรกฎาคม และ 28 กรกฎาคมนี้ เวลา 09.30 น. จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้เงินประกันตัว 30 ล้านบาท ซึ่งศาลอนุญาตโดยมีเงื่อนไขห้าม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับการอนุญาตจากศาล



ในวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังยื่นคำร้องขออนุญาตพิจารณาคดีลับหลัง แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยมีหน้าที่ต้องมาตามที่ศาลนัดทุกนัด หากไม่สามารถมาได้ในครั้งใด ให้จำเลยยื่นคำร้องและแสดงเหตุผลจำเป็นต่อศาลก่อน และศาลจะพิจารณาคำสั่งเป็นครั้งไป  



ส่วนทนายจำเลยขอยื่นพยานปากประมาณ 20 ปาก ส่วนฝ่ายโจทก์จะยื่นพยานปาก 13 ปากประกอบการพิจารณาคดี



หลังฟังคำสั่งศาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินออกมาจากศาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และรับดอกไม้จากผู้ที่มาให้กำลังใจ แล้วเดินทางกลับไปท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยผู้ที่มาให้กำลังบางส่วนจะเดินทางต่อไปที่ย่านราชประสงค์ เพื่อร่วมรำลึกถึงการสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันนี้ด้วย



ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยหลังการสอบคำให้การว่า การเดินทางมาวันนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมที่จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อสร้างความโปร่งใสต่อสังคม ยังคงยืนยันว่าลูกความของตัวเองนั้นบริสุทธิ์ และมั่นใจว่าหลักฐานที่มีอยู่ ส่วนที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานนั้นยืนยันว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางมาเอง อย่างไรก็ตาม เรื่องของพยานปากนั้นจะให้รายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ แต่ยืนยันว่าบางคนเป็นพยานใหม่ที่ไม่เคยปรากฎในสำนวนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. ส่งฟ้องมาที่อัยการ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ขาดความน่าเชื่อถือและไม่เปิดโอกาสให้แสดงหลักฐาน ส่วนการพิจารณาคดีในวันนี้ก็ไม่ได้ประเมินผลว่าพอใจหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่รู่สึกกังวลในรูปคดี เพราะมีหลักฐานพอ แต่ยอมรับว่ารู้สึกกังวลกับการที่พรรคประชาธิปัตย์แสดงแนวทางเชิงชี้นำศาล จึงไม่ต้องการให้กลุ่มบุคคลหรือผู้ใดแสดงการชี้นำอีก เพราะเกรงจะกระทบรูปคดี



 



...

ข่าวทั้งหมด

X