หลังกองทัพเมียนมาทำรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ทำให้เกิดกระแสต่อต้าน มีการประท้วงในหลายท้องที่รวมถึงกรุงเนปีดอว์และนครย่างกุ้ง ทำให้รัฐบาลใช้กำลังปราบปราบการประท้วง ต่อมาผู้ประท้วงได้จับอาวุธและเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกองกำลังของชนกลุ่มน้อย เพื่อสู้รบกับกองทัพเมียนมาและโค่นล้มรัฐบาลเมียนมา ก่อนหน้านี้ พลเอก มินต์ ส่วย ประธานาธิบดีเมียนมา เตือนว่า เมียนมาเสี่ยงแตกเป็นเสี่ยงๆ ถ้าหากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การสู้รบกับฝ่ายต่อต้านและชนกลุ่มน้อย
บีบีซี รายงานว่า รัฐบาลเมียนมาประกาศใช้กฏหมาย ให้ชายหนุ่มอายุ 18-38 ปีและหญิงสาวอายุ 18-27 ปีเข้ารายงานตัวเข้าเป็นทหารเกณฑ์รับใช้ชาติอย่างน้อย 2 ปี ภายใต้การบังคับบัญชาของกองทัพเมียนมาในช่วงเวลาที่ประเทศยังคงเผชิญกับเหตุภัยคุกคามความมั่นคงในปัจจุบัน ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติม แต่ระบุในแถลงการณ์ว่า กระทรวงกลาโหมจะออกกฎกระทรวง ตลอดถึงขั้นตอนวิธีการ,ลำดับคำสั่ง การส่งเอกสารแจ้งทราบ ตลอดถึงข้อปฏิบัติต่างๆในภายหลัง
สำหรับกฎหมายนี้ ผ่านการลงมติจากรัฐสภาเมียนมาตั้งแต่ปี 2553 แต่รัฐบาลเพิ่งประกาศใช้เป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ มีรายละเอียดอื่นๆเช่น รัฐบาลสามารถจะให้ยืดอายุการเข้าเป็นทหารเกณฑ์ได้ 5 ปีในกรณีมีการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน และคนที่ไม่ทำตามกฎหมายนี้จะมีโทษเช่น ถูกจำคุกเท่ากับระยะเวลาที่กำหนดให้เป็นทหารเกณฑ์
ก่อนหน้านี้ เกิดการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับฝ่ายต่อต้านในรัฐฉานเมื่อเดือนต.ค.2566 ซึ่งกองทัพเมียนมาเพลี่ยงพล้ำในการสู้รบกับฝ่ายต่อต้าน สูญเสียทหาร หรือมีทหารมากละทิ้งค่ายทหารในพื้นที่ชายแดน หลบหนีเอาชีวิตรอดหรือถูกจับเป็นเชลยศึก ทำให้ฝ่ายต่อต้านและนักรบกองกำลังของชนกลุ่มน้อยยึดด่านชายแดน และถนนสายหลักๆที่เชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งทางบกเพื่อการค้ากับประเทศจีน
นอกจากนี้ กองกำลังอาระกัน (AA) หนึ่งในกองกำลังชาติพันธุ์ที่สู้รบกับรัฐบาลทหารเมียนมา สามารถยึดเมืองปะแลตวะ (Paletwa) พร้อมทั้งยึดค่ายทหารแห่งสุดท้ายที่บริเวณเนินเขา มีวา (Meewa)ในเมืองปะแลตวะ ในรัฐชิน ทางตะวันตกของเมียนมาในเดือนที่แล้ว
#สถานการณ์เมียนมา