สหรัฐฯคว่ำบาตรบริษัทและเรือบรรทุกน้ำมัน ฐานละเมิดมาตรการเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย

          สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา เผยแพร่มาตรการคว่ำบาตร ฐานละเมิดมาตรการเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย เป็นครั้งที่ 2 ของปี 2567 ซึ่งเป็นมาตรการที่กำหนดโดยกลุ่มพันธมิตรชาติตะวันตก โดยให้ขึ้นบัญชีบริษัท 3 แห่งที่อยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และเรือบรรทุกน้ำมันที่จดทะเบียนในไลบีเรีย 

          ตามข้อมูลของ OFAC ระบุว่า พบการละเมิดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียในช่วงปลายปี 2566 เกี่ยวข้องกับบริษัท 3 แห่งใน UAE คือ ซีนิต ซัพพลายแอนด์เทรดดิง (Zeenit Supply and Trading DMCC), ทาลาสซา ชิปปิง (Talassa Shipping DMCC) และออยล์ แทงเกอร์ส เอสซีเอฟ เอ็มจีเอ็มที เอฟแซดซีโอ (Oil Tankers SCF Mgmt FZCO) ส่วนเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรคือเรือเอ็นเอส ลีดเดอร์ (NS Leader) ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2566 เรือขนส่งน้ำมันดิบอูรัล (Urals) ของรัสเซียที่มีราคาสูงกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

          สำหรับรายละเอียดของการคว่ำบาตร ได้แก่การยึดอายัดทรัพย์สินใด ๆ ที่บริษัทและเรือบรรทุกน้ำมันมีอยู่ในสหรัฐ และห้ามชาวอเมริกันทำธุรกรรมกับบริษัทและเรือที่ถูกคว่ำบาตร นายไบรอัน เนลสัน ปลัดกระทรวงการคลังด้านการก่อการร้ายและข่าวกรองทางการเงิน กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรในครั้งนี้ คือการย้ำการทำงานของสหรัฐฯ ที่จะมุ่งมั่นบังคับใช้มาตรการต่อผู้ที่ละเมิด

          การดำเนินการของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมุ่งมั่นในการรักษาอุปทานน้ำมันทั่วโลกที่เชื่อถือได้ ในขณะที่ลดรายได้ของรัสเซียจากการส่งออกน้ำมัน นอกจากการบังคับใช้การกำหนดราคาสูงสุดแล้ว OFAC ยังได้ออกข้อกำหนด 2 ประการเพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพัน G7 ในการห้ามการนำเข้าเพชรของรัสเซีย รวมถึงเพชรที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมบางประเภทที่ขุดได้ในรัสเซีย ซึ่งจะขยายออกไปในวันที่ 1 กันยายน 2567 และเครื่องประดับเพชรและเพชรที่ไม่ได้คัดแยกจากแหล่งกำเนิดของสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567

          สำหรับข้อกำหนดเพดานราคาน้ำมัน หมายถึงการอนุญาตให้เฉพาะน้ำมันรัสเซียที่มีราคาไม่เกิน 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สามารถใช้บริการเรือบรรทุกน้ำมัน บริษัทประกันภัย และผู้ให้สินเชื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของกลุ่มจี7 และอียูได้ เป็นมาตรการที่ออกแบบมาเพื่อจำกัดรายได้จากน้ำมันของรัสเซีย ไม่ให้นำไปเป็นทุนทำสงครามกับยูเครน แต่ยังเปิดทางให้กระแสน้ำมันของรัสเซียยังคงไหลป้อนสู่ตลาด โดยผู้ให้บริการ จะต้องมีเอกสารรับรองว่าสินค้าน้ำมันเหล่านั้นถูกซื้อในราคาต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

...

#กระทรวงการคลังสหรัฐ #มาตรการเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย