รอบโลก : อินโดฯประสบปัญหาดูแลผู้อพยพ/อียูสนับสนุนแผนปราบปรามการค้ามนุษย์/สหรัฐเรียกร้องลงโทษเกาหลีหนือ

19 พฤษภาคม 2558, 06:22น.


เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในจังหวัดอาเจะห์ ของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า การดูแลช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮิงญาและบังคลาเทศจำนวนหลายพันคน เริ่มส่งผลให้เกิดความขาดแคลนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในสถานที่พักชั่วคราว จากที่เมื่อวันศุกร์มีผู้อพยพขึ้นฝั่งเพิ่มเติมอีกเกือบ 800 คน และเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่แล้วมีผู้อพยพที่ขึ้นฝั่งอินโดนีเซียและทางตอนเหนือของมาเลเซียมากกว่า 2,500 คน



ทั้งนี้นายอานิฟาห์ อามานรัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียพบกับนายอาบูล ฮัสซาน มาห์มู้ด อาลีรัฐมนตรีต่างประเทศของบังกลาเทศ ที่รัฐซาบาห์บนเกาะบอร์เนียว และจะพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซียและไทยในวันพุธนี้ ซึ่งนายอามานกล่าวว่า มาเลเซียไม่สามารถรองรับผู้อพยพชาวโรฮิงญาได้มากกว่านี้อีกแล้ว และจนถึงขณะนี้ก็ไม่มีประเทศใดต้องการให้คนเหล่านี้เข้าไปตั้งถิ่นฐาน ทั้งกล่าวว่า มาเลเซียต้องดูแลผลประโยชน์ของตัวเอง รวมถึงปัญหาทางสังคมและความมั่นคง จึงขอร้องให้พม่าร่วมแก้ปัญหา



เช่นเดียวกับนายมูห์ยิดดิน แยสซิน รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เรียกร้องให้รัฐบาลพม่าแสดงความรับผิดชอบและมนุษยธรรมในการแก้ไขปัญหาผู้อพยพทางเรือชาวโรฮิงญา ที่เป็นปัญหาภายในของพม่า และไม่ควรถูกผลักให้เป็นภาระของชาติสมาชิกในอาเซียน เนื่องจากปัจจุบันมาเลเซียมีผู้อพยพจากพม่าที่เข้าเมืองแบบผิดกฎหมายอยู่แล้วประมาณ 120,000 คน และรัฐบาลมาเลเซียไม่ต้องการรับภาระผู้อพยพอีกต่อไป



รัฐบาลฟิลิปปินส์ ประกาศว่าจะรองรับผู้อพยพชาวโรฮิงญาทั้งจากบังกลาเทศและพม่าจำนวน 3,000 คน ขณะเอกวาดอร์ประกาศว่าประชาคมชาติละติน-แคริบเบียน (CELAC) จำนวน 33 ประเทศพร้อมรองรับผู้อพยพ



ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่ร่วมลงนามในปฏิญญาว่าด้วยเรื่องผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ ที่มีผลผูกพันให้ช่วยเหลือบุคคลที่ถูกบังคับให้ย้ายถิ่นฐานโดยไม่สมัครใจอันเนื่องมาจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งก่อนหน้านี้ ฟิลิปปินส์เคยรับผู้อพยพทางเรือชาวเวียดนามมาแล้วเช่นกัน



ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหม 28 ชาติสหภาพยุโรป (อียู) เตรียมสนับสนุนแผนการปราบปรามการค้ามนุษย์ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งประกอบไปด้วยความร่วมมือทางทหาร ที่จะมีการส่งเรือรบและเครื่องบินลาดตระเวนนอกชายฝั่งประเทศลิเบีย ที่เป็นต้นทางสำคัญของการลักลอบขนผู้อพยพไปยุโรป เพื่อทำลายเรือของขบวนการค้ามนุษย์ที่มาจากแอฟริกา



นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีการร้องขอให้ตั้งคณะทำงานและเริ่มปฏิบัติงานอย่างเป็นทางการในการประชุมสุดยอดอียูในเดือนมิถุนายนนี้ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโรมของอิตาลี ภายใต้การนำของพลเรือตรี เอ็นริโก เครเดนดิโน



กองกำลังชาวชีอะห์ในอิรัก เตรียมกำลังสนับนุนกองทัพอิรักชิงคืนเมืองรามาดี เมืองเอกของจังหวัดอันบาร์ที่ถูกกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอสบุกยึด ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล- อาบาดีแห่งอิรัก และสหรัฐฯ ต่างลังเลที่จะให้กลุ่มชีอะต์สนับสนุนการสู้รบ เพราะเกรงว่าจะมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวสุหนี่ แต่หัวหน้ากองกำลังชาวชีอะห์ในท้องถิ่นเห็นว่า การเสียเมืองรามาดี แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไร้ความสามารถหากไม่ใช้กองกำลังฮาเชด อัล-ชาอาบี ที่เป็นกองกำลังชาวชีอะห์ในท้องถิ่น



ส่วนที่ซีเรีย กองทัพประกาศว่า สามารถผลักดันไอเอสออกไปจากเมืองมรดกโลกพัลไมราได้สำเร็จ



ยังมีวัยรุ่นออสเตรียวัย 15 ปี ที่ต้องขึ้นศาลกรุงเวียนนา ในข้อหามีส่วนร่วมกับกลุ่มก่อการร้าย โดยสารภาพว่าพยายามประกอบระเบิดเพื่อไปวางที่สถานีรถไฟในกรุงเวียนนา และในการตรวจสอบพบภาพโฆษณาชวนเชื่อของไอเอสในคอมพิวเตอร์ , โทรศัพท์มือถือและเครื่องเล่นวิดีโอเกมของเขา



นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้นานาชาติเพิ่มแรงกดดันเกาหลีเหนือ โดยขู่ว่าจะมีมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ เนื่องจากพยายามเพื่อให้ได้มาซึ่งอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธร้ายแรง โดยไม่รักษาสัญญาและข่มขู่คุกคาม ไม่เคารพต่อกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเห็นได้ชัด ส่วนนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือมีการปกครองที่เลวทราม และใช้การประหารชีวิตที่พิสดาร



สำนักการเดินเรือและการท่าเรือแห่งสิงคโปร์ (เอ็มพีเอ) เรียกร้องให้อิหร่านสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่อิหร่านยิงปืนเตือนเรือบรรทุกน้ำมันอัลไพน์ อีเทอร์นิตีที่ติดธงสิงคโปร์ขณะแล่นอยู่ในน่านน้ำสากล ซึ่งสิงคโปร์เห็นว่า เป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่เรือของสิงค์โปร์ถูกเรืออิหร่านยิงเตือนก็วิทยุแจ้งขอความช่วยเหลือ ซึ่งมีเรือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่อยู่ใกล้เคียงได้ยินและเข้ามาให้ความช่วยเหลือในทันที เรือของอิหร่านจึงล่าถอยออกไป



อย่างไรก็ตามเรือบรรทุกน้ำมันลำนี้ มีข้อพิพาทกับอิหร่าน เนื่องจากเป็นเรือของบริษัททรานส์ปิโตรทีเอ็ม เอเอสของนอร์เวย์ ที่ชนแท่นขุดเจาะน้ำมันอิหร่านจนได้รับความเสียหายเมื่อวันที่ 22 มีนาคม มีมูลค่าความเสียหาย 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทางบริษัทไม่ยอมจ่ายค่าชดเชย



รัฐบาลโปแลนด์ได้จ่ายเงินชดเชยแก่ชาย 2 คนที่เคยถูกควบคุมตัวไว้ในคุกลับของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) ก่อนจะถูกย้ายไปขังในเรือนจำกวนตานาโมของกองทัพสหรัฐที่คิวบา ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป (อีซีเอชอาร์) เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว



นางวัน อาซิซาห์ วัน อิสมาอิล ภรรยาของนายอันวาร์ อิบราฮิม สาบานตนต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเข้ารับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน หลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมที่รัฐปีนัง ซึ่งว่างลงเมื่อนายอันวาร์ถูกศาลตัดสินจำคุก 5 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ในข้อหาประพฤติผิดทางเพศ



ส่วนกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีปิแอร์ เอ็นกูรุนซิซา ของบุรุนดี กลับมาชุมนุมประท้วงอีกครั้งใหม่หลังไม่ประสบความเร็จในการยึดอำนาจ



ยังมีการชุมนุมที่กรุงสโกเปียของมาซิโดเนียเพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรีนิโกลา กรูฟสกี ลาออก หลังการปกครองประเทศมา 9 ปี และพรรคฝ่ายค้านเปิดเผยคลิปบันทึกเสียงที่แสดงให้เห็นว่ารัฐมนตรีหลายคนวางแผนโกงเลือกตั้งและปกปิดคดีฆาตกรรม นอกจากนี้ยังดักฟังโทรศัพท์ประชาชน 20,000 คน ที่มีทั้งนักการเมือง นักข่าว และผู้นำทางศาสนา



ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายเมื่อคืนนี้ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 26.32 จุด หรือร้อยละ 0.14 ปิดที่ 18,298.88 จุด



ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 6.47 จุด หรือร้อยละ 0.30 ปิดที่ 2,129.20 จุด



ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 30.15 จุด หรือร้อยละ 0.60 ปิดที่ 5,078.44 จุด



*-*

ข่าวทั้งหมด

X