นายกฯสั่งแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ย้ำ ตัดสิทธิ​เกษตรกร ฝ่าฝืน​เผา​-เจ้าหน้าที่ละเลย​

          การรับมือฝุ่น PM 2.5 ในวันนี้ (6 กุมภาพันธ์) ชัย​ วัชรงค์​ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ เปิดเผยว่า เศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ สั่งการต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)​ ว่า​ รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างจริงจังและเข้มงวดเป็นลำดับต้นๆ โดยมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อจัดการปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และมีการยกร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ส่งไปยังรัฐสภา เพื่อพิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้จังหวัดเชียงใหม่เป็นโมเดล​ ล่าสุดการประเมินในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง ฝุ่นละอองลดลงมากในเดือนมกราคม เมื่อเทียบย้อนหลัง 10 ปี แต่พื้นที่อื่นโดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังไม่ลดลง​ นายกรัฐมนตรีจึงอยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการ​ ใช้กลไกด้านกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันไปปรับใช้ให้หน่วยงานพิจารณากำหนดมาตรการให้มีความเข้มข้นและเป็นรูปธรรม

          สำหรับการวางมาตรการกำหนดให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รณรงค์ให้ผู้เผาตอซังทางการเกษตรเปลี่ยนเป็นการฝังกลบ พร้อมย้ำว่า ​หากเกษตรกรรายใดฝ่าฝืน​จะถูกตัดสิทธิการช่วยเหลือจากภาครัฐทุกรูปแบบ ทุกประเภท  

          ส่วนสินค้าเกษตรที่นำเข้ามาจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน​ ให้กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์​ร่วมกัน วางมาตรการลด​หรือห้ามนำเข้าสินค้าเกษตร ที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตเกี่ยวข้องกับการเผา รวมถึงกำหนดให้มีการจับกุมและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย​และกระทรวงสาธารณสุข​ บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและจริงจัง หรือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกประกาศเขตห้ามเผาตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย​ หากผู้ใดฝ่าฝืนให้ลงโทษตามกฎหมายโดยเคร่งครัด

          กรณีเผาให้เป็นเหตุรำคาญ ให้ดำเนินการด้วย พ.ร.บ.การสาธารณสุข หากมีการลักลอบนำเข้าสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจับกุมและดำเนินการ หรือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแลพื้นที่ให้เข้มงวด​ไม่ให้เกิดการเผา และหากมีการเผาหรือยังมีการลักลอบนำเข้า​ ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและละเลยการปฏิบัติ​หน้าที่ถูกลงโทษตามระเบียบ

#ฝุ่นPM